คำสั่งคำร้องที่ 1448/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์อุทธรณ์ ศาลภาษีอากรกลางสั่งว่า โจทก์ยื่นอุทธรณ์เกินกำหนด 7 วัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 156 จึงไม่รับ
โจทก์เห็นว่า คดีนี้เป็นคดีที่เกี่ยวกับภาษีอากร ต้องใช้พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากรพ.ศ. 2528 ซึ่งโจทก์ได้ปฏิบัติตามมาตรา 17,24 แล้ว การที่โจทก์ยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งจึงเป็นอุทธรณ์ที่ชอบ อีกทั้งการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งงดไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของโจทก์โดยศาลชั้นต้นนำคำฟ้องและเอกสารท้ายคำฟ้องขึ้นวินิจฉัยโดยไม่รับฟังการไต่สวนหรือวินิจฉัยคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของโจทก์ แล้วกลับวินิจฉัยยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของโจทก์นั้นเป็นการไม่ถูกต้องศาลสูงควรมีคำสั่งวินิจฉัยกลับคำสั่งของศาลชั้นต้นโดยมีคำสั่งรับอุทธรณ์โจทก์ไว้เพื่อให้มีการไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของโจทก์ต่อไป
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 29 แผ่นที่ 2)
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนแบบแจ้งการประเมินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.11) เงินเพิ่ม เบี้ยปรับ ของจำเลยทั้งสี่ และเพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยที่ให้โจทก์รับผิดชำระภาษีเป็นเงิน 798,033.60 บาท และหากโจทก์จะต้องเสียภาษีก็ต้องเสียจากยอดเงิน 356,000 บาทเท่านั้น หากจำเลยทั้งสี่หรือคนใดคนหนึ่งไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย พร้อมกับยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา
ศาลภาษีอากรกลางงดการไต่สวนคำร้องแล้ว มีคำสั่งว่า คดีของโจทก์ไม่มีมูลที่จะฟ้องร้อง ให้ยกคำร้องของโจทก์ หากโจทก์ประสงค์จะดำเนินคดีต่อไป ให้โจทก์นำค่าธรรมเนียมมาเสียภายในวันที่ 27 ตุลาคม 2529
ศาลภาษีอากรกลางอ่านคำสั่งให้โจทก์ฟังเมื่อวันที่16 ตุลาคม 2529
โจทก์ยื่นอุทธรณ์ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2529 ศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 24)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 25 แผ่นที่ 4)

คำสั่ง
คำสั่งของศาลชั้นต้นให้ยกคำขอในกรณีขอฟ้องคดีอย่างอนาถาจะต้องยื่นอุทธรณ์ภายใน 7 วัน ตามมาตรา 156 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ประกอบด้วยมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากรพ.ศ. 2528 ให้ยกคำร้อง

Share