คำสั่งคำร้องที่ 773/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยที่ 2เป็นฎีกาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 จึงไม่รับ
จำเลยที่ 2 เห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายที่ว่าความจริงการสร้างอาคารตามฟ้องมิใช่อาคารดังที่โจทก์กล่าวอ้าง ขอให้พิจารณาคดีนี้ใหม่ในปัญหาข้อกฎหมายที่ว่าสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวเป็นอาคารตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคารพ.ศ. 2522 หรือไม่ ประกอบกับคำรับสารภาพของจำเลยที่ผิดไปจากความเป็นจริง ย่อมขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีโปรดรับฎีกาของจำเลยที่ 2 ด้วย
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 21,65 และ 70 จำคุกจำเลยที่ 1มีกำหนด 6 เดือน ปรับ 20,000 บาท และปรับจำเลยที่ 220,000 บาทกระทงหนึ่ง ผิดตามมาตรา 40,67 และ 70 ปรับจำเลยทั้งสอง วันละ5,000 บาท 24 วัน เป็นเงิน 120,000 บาท เรียงกระทงลงโทษเป็นจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 6 เดือน ปรับ 140,000 บาท ปรับจำเลยที่ 2 เป็นเงิน 140,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 3 เดือน ปรับ 70,000 บาทจำเลยที่ 2 ปรับ 70,000 บาท ฯลฯ โทษจำคุกจำเลยที่ 1 ให้รอไว้มีกำหนด 2 ปี
จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับดังกล่าว(อันดับ 17)
จำเลยที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 21)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว จำเลยที่ 2 ฎีกาว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมไม่ตรงต่อความเป็นจริง อาคารที่จำเลยสร้าง มิได้เป็นดังที่โจทก์ฟ้อง จำเลยให้การรับสารภาพโดยความเข้าใจผิด เพราะเจ้าหน้าที่แนะนำว่า จะถูกลงโทษปรับเพียงเล็กน้อย แต่ศาลลงโทษจำเลยหนักกว่าที่เจ้าหน้าที่แนะนำ ขอให้ยกฟ้องโจทก์หรือลงโทษจำเลยในสถานเบา เห็นว่า ฎีกาข้อที่ว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมแม้จะเป็นปัญหาข้อกฎหมาย แต่จำเลยมิได้บรรยายว่าเคลือบคลุมอย่างไร จึงเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ไร้สาระอันควรได้รับการวินิจฉัยส่วนฎีกาข้อที่ขอให้ลงโทษจำเลยในสถานเบา เป็นฎีกาในการใช้ดุลพินิจกำหนดโทษ ซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกา ของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share