แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาจำเลยในประเด็นข้อแรกเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระสำคัญอันควรได้รับการวินิจฉัยสำหรับประเด็นข้อ 2-5 เป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่ยุติไปแล้วโดยจำเลยไม่ได้ว่ากล่าวมาในขั้นอุทธรณ์ ส่วนฎีกาข้อสุดท้ายที่ขอให้รอการลงโทษเป็นปัญหาข้อเท็จจริง แม้ศาลอุทธรณ์แก้จากรอการลงโทษเป็นไม่รอ ซึ่งเป็นการแก้ไขมากแต่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ก็พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยกระทงละไม่เกิน 1 ปี ต้องห้ามไม่ให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 วรรคแรกจึงไม่รับ
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยทุกประเด็นเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่สำคัญอันควรได้รับการวินิจฉัยจากศาลฎีกา โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 172)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูลให้ประทับฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 รวม3 กระทง ให้จำคุก กระทงละ 6 เดือน รวม 1 ปี 6 เดือน รอการลงโทษจำเลยไว้มีกำหนด 1 ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่รอการลงโทษจำคุกจำเลยนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 169)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 172)
คำสั่ง
คดีนี้โจทก์ถอนฟ้องและศาลมีคำสั่งอนุญาตแล้ว จึงไม่จำต้องสั่งคำร้องนี้