คำสั่งคำร้องที่ 1457/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 2 ขอให้ศาลสั่งปล่อยชั่วคราวเพื่อหาเงินมาผ่อนชำระค่าปรับโดยผู้ขอประกันได้เสนอบัญชีทรัพย์มาพร้อมคำร้องแล้ว
หมายเหตุ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนว่า จำเลยทั้งสี่มีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 4,5,6,7,11,47,48,69,73,74,74 ทวิ,74 จัตวา,75 ฯลฯ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33,83,91 ฯลฯ พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 4,5,6,14,31 ฯลฯ เรียงกระทงลงโทษฐานทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 31 วรรคสอง จำคุกคนละ 4 ปี ปรับคนละ 60,000 บาท ฐานมีไม้ยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครอง จำคุกคนละ 4 ปี ปรับคนละ 40,000 บาท ฐานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกคนละ 4 ปี ปรับคนละ 40,000 บาท ฐานมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกคนละ 4 ปีปรับคนละ 40,000 บาท รวม 4 กระทง จำคุกคนละ 16 ปี ปรับคนละ180,000 บาท จำเลยทั้งสี่ให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกคนละ 8 ปี และปรับคนละ 90,000 บาท โทษจำคุกแต่ละกระทงไม่เกิน 2 ปี พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะ แล้วโทษจำคุกให้รอการลงโทษจำเลยทั้งสี่ไว้มีกำหนด 3 ปี ฯลฯ
จำเลยทั้งสี่ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับ (อันดับ 51)
จำเลยทั้งสี่ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 52)
จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอถอนฎีกา (น่าจะเป็น ขอถอนคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา) พร้อมกับยื่นคำร้องนี้และมีคำร้องประกอบ(อันดับ 59,62,60)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลฎีกาอนุญาตให้จำเลยที่ 2 ถอนคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวให้ยกคำร้อง

Share