คำสั่งคำร้องที่ 1260/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาโจทก์เป็นฎีกาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220 จึงไม่รับ
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่าการกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นการสมคบกับจำเลยที่ 1 อันจะเป็นความผิดฐานร่วมกันบุกรุกหรือไม่ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ ทนายจำเลยทั้งสองได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 43)
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362,365(1)(2) และมาตรา 83ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีของโจทก์มีมูลเฉพาะจำเลยที่ 1 ส่วนจำเลยที่ 2 ไม่มีมูล พิพากษายกฟ้องโจทก์ในส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 2
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 42)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 40)

คำสั่ง
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ว่า คดีของโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1มีมูลตามฟ้อง ให้ประทับฟ้องไว้พิจารณาเฉพาะจำเลยที่ 1 เป็นอันเด็ดขาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 170 ฎีกาของโจทก์มีใจความว่าการกระทำของจำเลยที่ 2 ตามที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาถือได้ว่าเป็นการร่วมกระทำความผิดด้วยกันกับจำเลยที่ 1จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย ให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณา

Share