แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยทั้งสิบสี่ขอให้ศาลปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกา โดยผู้ขอประกันได้เสนอบัญชีทรัพย์มาพร้อมคำร้องแล้ว
หมายเหตุ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสิบสี่มีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 7,11,48,72,74,74 จัตวา ฯลฯ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,91 ฯลฯ วางโทษฐานทำไม้หวงห้ามโดยมิได้รับอนุญาต จำคุกคนละ 2 ปี ปรับคนละ30,000 บาท ฐานมีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุกคนละ 2 ปี ปรับคนละ 30,000 บาท รวม 2 กรรม จำคุกคนละ4 ปี ปรับคนละ 60,000 บาท จำเลยทั้งสิบสี่ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 2 ปีปรับคนละ 30,000 บาท โทษจำคุกจำเลยทั้งสิบสี่ให้รอไว้มีกำหนด2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับโดยจ่ายจากเงินค่าปรับหรือจากเงินค่าขายของกลางที่ศาลสั่งริบแล้วแต่กรณี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสิบสี่ฎีกา และยื่นคำร้องดังกล่าวโดยมีคำร้องประกอบ(อันดับ 23,22,24)
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ปล่อยจำเลยทั้งสิบสี่ชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์ ตีราคาประกันคนละ 50,000 บาท (อันดับ 8)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกาตีราคาค่าประกันคนละ 50,000 บาท ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาหลักประกัน แล้วดำเนินการต่อไป