แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา หากศาลฎีกามีคำสั่งกลับคำสั่งศาลอุทธรณ์แล้วจะทำให้จำเลยได้รับความเสียหายอย่างยิ่ง โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อนเพื่อรอคำวินิจฉัยของศาลฎีกาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 46)
กรณีสืบเนื่องมาจากในวันนัดสืบพยานโจทก์ซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อน นายวิชิตวิชิตะกุล ทนายจำเลยคนหนึ่งมอบฉันทะให้เสมียนทนายมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างเหตุว่าป่วย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยแต่งทนายความไว้ 2 คน คือ นางสาวนงนุชตั้งตรงจิตต์ และนายวิชิตวิชิตะกุล ทั้งจำเลยไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยาน จึงไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดี ให้ยกคำร้อง โจทก์นำพยานเข้าสืบเสร็จในวันนั้น แล้ว ศาลชั้นต้นจดรายงานกระบวนพิจารณาว่า จำเลยไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานและไม่ได้มาศาล ทั้งจำเลยให้การต่อสู้เพียงว่าออกเช็คมอบให้นางเซี้ยมยึดถือไว้เท่านั้น ไม่ได้กล่าวว่าเช็ค ไม่มีมูลหนี้หรือโจทก์สมคบกับนางเซี้ยมฉ้อฉลจำเลยจึงไม่มีอะไรจะสืบให้งดสืบพยานจำเลย และมีคำพิพากษาในวันเดียวกันนั้น ให้จำเลย ใช้เงินให้โจทก์ 250,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่ง ต่อปีในจำนวนเงิน 200,000 บาท นับแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2529 และ ในจำนวนเงิน 50,000 บาท นับแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2529 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ฯลฯ
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีศาลอุทธรณ์เห็นว่า ตามคำร้องขอเลื่อนคดีของนายวิชิตฯ อ้างเหตุแต่เพียงว่าตนป่วย ไม่ได้กล่าวถึงนางสาวนงนุชฯ ทนายจำเลย อีกคนหนึ่งว่ามีเหตุจำเป็นอย่างไร ดังนี้แม้นายวิชิตฯป่วยนางสาวนงนุชฯ ก็สามารถดำเนินกระบวนพิจารณาแทนจำเลยในวันดังกล่าวได้ ที่จำเลยอ้างในอุทธรณ์ว่านางสาวนงนุชฯ เป็นเพียงทนายผู้ช่วยไม่มีความรู้ความเข้าใจในการดำเนินกระบวนพิจารณานั้น จำเลยเพิ่งยกขึ้นกล่าวอ้างในอุทธรณ์ หาได้อ้างเป็นเหตุในการขอเลื่อนคดีด้วยไม่ ทั้งยังปรากฏว่าในวันนัดสืบพยานโจทก์นั้นจำเลยยังไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยาน พฤติการณ์ของจำเลยจึงมีลักษณะเป็นการประวิงคดี ที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีชอบแล้ว พิพากษายืน
จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 42,41)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ถ้าจำเลยหาประกันสำหรับจำนวนเงินที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องจนถึงวันทราบคำสั่งนี้มาให้เป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกา มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง