แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า ผู้ร้องสอดฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของ ผู้ร้องสอดเป็นการให้รับฟังข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่ปัญหา ข้อกฎหมายถือว่าเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรค 1 และวรรค 2จึงไม่รับฎีกาของผู้ร้องสอด คืนค่าธรรมเนียมทั้งหมด
ผู้ร้องสอดเห็นว่า ฎีกาที่ว่าโจทก์ส่งหนังสือบอกเลิก สัญญาเช่าไปยังที่อื่น อันมิใช่ภูมิลำเนาของจำเลย การบอกเลิก สัญญาเช่าของโจทก์จึงไม่อาจถือว่าเป็นการบอกเลิกสัญญาเช่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566 โจทก์ไม่มี อำนาจฟ้องจำเลยนั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับ ฎีกาของผู้ร้องสอดไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้อง แล้วหรือไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ให้จำเลย ผู้ร้องสอดและบริวารรื้อถอนบ้านเลขที่ 306/323(เลขที่ใหม่เป็นเลขที่ 10) หมู่ที่ 7ตำบลลำไทรอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกไปจากที่ดินโฉนดเลขที่ 24328 ตำบลลำตาเสา (คลองซอยที่ 26 ฝั่งเหนือ)อำเภอวังน้อย (พระราชวัง) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ห้ามเกี่ยวข้องต่อไปกับให้จำเลยและ ผู้ร้องสอดร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 500 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลย ผู้ร้องสอดและบริวารจะออกไปจาก ที่ดินพิพาท ยกคำร้องสอด
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ผู้ร้องสอด
ผู้ร้องสอดฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 178)
ผู้ร้องสอดจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 179)
คำสั่ง
ฎีกาข้อ 2 ของผู้ร้องสอดที่ว่า ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า อุทธรณ์ของผู้ร้องสอดต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง เป็น คำวินิจฉัยที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เป็นฎีกาในปัญหา ข้อกฎหมายจึงให้รับฎีกาเฉพาะข้อที่กล่าวนี้ไว้