แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การร้องขอเลื่อนคดีโดยอ้างเหตุว่าป่วยเจ็บนั้น ป.วิ.พ.มาตรา 40 และ 41 มิได้บังคับว่าผู้ที่อ้างว่าป่วยเจ็บนั้นจะต้องมีใบรับรองแพทย์มาแสดงด้วย จึงอยู่ที่ข้อเท็จจริงว่าทนายจำเลยป่วยเจ็บจริงหรือไม่ หากศาลมีความสงสัยว่าทนายจำเลยจะป่วยเจ็บจริงหรือไม่ และอาการที่อ้างว่าป่วยเจ็บนั้นจะร้ายแรงถึงกับไม่สามารถจะมาศาลได้หรือไม่ ศาลก็มีอำนาจไต่สวนคำร้องขอเลื่อนคดีเสียก่อนได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 21(4) หรือจะตั้งเจ้าพนักงานศาลไปทำการตรวจดู ว่าทนายจำเลยป่วยเจ็บหรือไม่เพียงใดแล้วจึงวินิจฉัยและมีคำสั่งอย่างหนึ่งอย่างใดเกี่ยวกับคำร้องนั้น ตามมาตรา 41.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ำจเลยและนายสุรฤทธิ์ คงมีสุข ได้กุ้ยืมเงินจากโจทก์กำหนดใช้เงินคืนภายใน 1 ปี ได้ทำสัญญากู้ยืมให้ไว้โดยใช้หนังสือซื้อขายเขียนแทนสัญญากู้และจำเลยยังได้มอบหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้โจทก์ยึดถือไว้เป้นประกันนับแต่กู้ยืมเงินไปแล้ว จำเลยไม่ได้ชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้โจทก์
จำเลยให้การว่า ำจเลยไม่เคยกู้ยืมเงินจากดจทก์ โดยใช้สัญญาซื้อขายเขียนแทนสัญญากู้ และจำเลยไม่ได้มอบอหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้โจทก์ยึดถือไว้เพื่อเป็นการประกันเงินกู้ แต่เป็นเรื่องจำเลยตกลงทำสัญญาขายฝากที่ดินให้โจทก์
ศาลชั้นต้นกำหนดให้โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน ในวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ทนายโจทก์ จำเลยและเสมียนทนายจำเลยมาศาล ทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายนำคำร้องมายื่น ตามคำร้องอ้างว่าทนายจำเลยป่วยมีอาการปวดศรีษะ เจ็บคออันเนื่องมาจากไข้หวัดใหญ่จึงไม่สามารถมาซักค้านพยานโจทก์ได้ ขอเลื่อนคดี ทนายโจทก์แถลงคัดค้านว่า จำเลยประวิงคดี ศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า จำเลยอ้างว่าป่วยแต่มิได้มีใบรับรองแพทย์เป็นเพียงกล่าวอ้างลอย ๆ ประกอบกับจำเลยยังมิได้ยื่นบัญชีพยาน การกระทำของจำเลยมีเตหุเชื่อว่าเป็นการประวิงคดี และเพื่อจะขอยื่นบัญชีระบุพยาน จึงมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดี ค่าคำร้องเป็นพับ ให้โจทก์นำพยานเข้าสืบจนเสร็จ จำเลยไม่มีสิทธิสืบพยาน เพราะไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานแล้วพิพากษาให้จำเลยชำระงเินแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาคา 2 พิพากษายกคำสั่งและคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดี และให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
โจทกืฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีข้อวินิจฉัยว่า ควรให้จำเลยเลื่อนคดีตามคำร้องของทนายจำเลยหรือไม่ พิเคราะห์แล้ว เห้ฯว่า คู่ความจะร้องขอเลื่อนคดีได้จะต้องเป็นกรณีมีเหตุจำเป็นตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40 ที่ได้แก้ไขแล้วและการอนุญาตให้เลื่อนคดีหรือไม่เป็นดุลพินิจของศาล กล่าวคือศาลจะให้เลื่อนคดีหรือไม่ก็ได้ แต่ศาลก็ต้องใช้ดุลพินิจอย่างมีเหตุผลด้วย ข้อเท็จจริงได้ความว่า ในวันนัดสืบพยานนัดแรกซึ่งเป็นการนัดสืบพยานฝ่ายโจทก์ ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างเหตุว่าไม่สามารถมาศาลเพื่อซักค้านพยานโจทก์ได้เนื่องจากมีอาการปวดศีรษะเจ็บคออันเนื่องมาจากไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นการอ้างเหตุขอเลื่อนคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 41 หากข้ออ้างดังกล่าวเป็นความจริง ก็ถือได้ว่าเป็นกรณีมีเหตุจำเป็นและมีเหตุสมควรที่ศาลชั้นต้นควนให้เลื่อนคดีตามมาตรา 40 ดังกล่าว เมื่อโจทก์รับสำเนาคำร้องขอเลื่อนคดีแล้วแถลงคัดค้านว่าจำเลยประวิงคดีโจทก์มิได้คัดค้านโดยตรงว่า จำเลยมิได้ป่วยเจ็บตามที่อ้างมาในคำร้องนั้นและมิได้คัดค้านว่าคำร้องของทนายจำเลยไม่เป็นความจริงจึงเท่ากับโจทก์ยอมรับว่าทนายจำเลยป่วยเจ็บตามที่อ้างมาในคำร้องนั้นที่ศาลชั้นต้นเห็นว่า ทนายจำเลยไม่มีใบรับรองแพทย์มาแสดงเป็นการกล่าวอ้างลอย ๆ นั้น เห็นว่า การร้องขอเลื่อนคดีโดยอ้างเหตุว่าป่วยเจ็บนั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40 และ 41มิได้บังคับว่าผู้ที่อ้างว่าป่วยเจ็บนั้นจะต้องมีใบรับรองแพทย์มาแสดงด้วย จึงอยู่ที่ข้อเท็จจริงว่าทนายจำเลยป่วยเจ็บจริงหรือไม่หากศาลมีความสงสัยว่าทนายจำเลยจะป่วยเจ็บจริงหรือไม่ และอาการที่อ้างว่าป่วยเจ็บนั้นจะร้ายแรงถึงกับไม่สามารถจะมาศาลได้หรือไม่ศาลก็มีอำนาจไต่สวนคำร้องขอเลื่อนคดีเสียก่อนได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 21(4) หรือจะตั้งเจ้าพนักงานศาลไปทำการตรวจดูว่าทนายจำเลยป่วยเจ้บหรือไม่เพียงใดแล้วจึงวินิจฉัยและมีคำสั่งอย่างหนึ่งอย่างใดเกี่ยวกับคำร้องนั้นตามมาตรา 41 ก็ได้ การที่ศาลชั้นต้นมิได้ดำเนินการตามบทกฎหมายดังกล่าว ย่อมแสดงว่าศาลชั้นต้นมิได้มีความสงสัยในเรื่องที่ทนายจำเลยอ้างว่าป่วยเจ็บตามคำร้องดังกล่าว จึงรับฟังได้ว่า ทนายจำเลยป่วยเจ็บและไม่สามารถมาศาลได้ เป็นกรณีมีเหตุจำเป็นสมควรให้เลื่อนคดีตามคำร้องของทนายจำเลย ที่ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยยังมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้นั้น ก็เห็นว่า ไม่ใช่เหตุผลที่จะนำมาพิจารณาว่าสมควรให้เลื่อนคดีเพราะคู่ความอ้างว่าเป็นเจ็บตามมาตรา 40หรือไม่ ศาลอุทธรณ์ภาค 2 วินิจฉัยว่า มีเหตุสมควรให้จำเลยเลื่อนคดีนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย…”
พิพากษายืน.