คำสั่งคำร้องที่ 1906/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลย ข้อ 2.2 เห็นว่า จำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้ในชั้นพิจารณาของศาลชั้นต้น และไม่ใช่ข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน จึงไม่รับ ส่วนฎีกาข้ออื่น ๆ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จึงไม่รับฎีกาของจำเลย คืนค่าขึ้นศาลให้จำเลยทั้งหมด
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยข้อ 2.2 นั้น จำเลยได้ใช้สิทธิ โต้แย้งในทันทีที่โจทก์เบิกความนำสืบ ซึ่งศาลชั้นต้นก็ได้บันทึกคำเบิกความของโจทก์ และจำเลยเห็นว่าเป็นปัญหาเกี่ยวกับ ความสงบเรียบร้อยของประชาชน ส่วนฎีกาข้ออื่น ๆ ล้วนเป็นฎีกา ในปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ ไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ จำเลยแถลงคัดค้าน (อันดับ 70)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ให้จำเลยและบริวารขนย้ายออกจากตึกแถวเลขที่ 910/66 ซอยมหาสิน 3 ถนนสุขุมวิท 101/1แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร และให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ 15,000 บาท และอีกเดือนละ 2,500 บาทนับถัดจากวันฟ้อง (วันที่ 1 เมษายน 2535) เป็นต้นไปจนกว่า จำเลยและบริวารจะย้ายออกและส่งมอบตึกแถวพิพาทคืนโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 67)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 68)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกจากอสังหาริมทรัพย์ อาจให้เช่าได้ไม่เกินเดือนละ 10,000 บาท ต้องห้ามฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคสอง ฎีกาจำเลยทั้งหมดนอกจากข้อ 2.2 เป็นการโต้แย้ง ดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์เกี่ยวกับการผิดสัญญา จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามบทบัญญัติ แห่งกฎหมายดังกล่าว
ส่วนข้อ 2.2 จำเลยฎีกาว่า โจทก์ไม่บรรยายฟ้องถึงวัตถุประสงค์ของโจทก์เป็นการไม่ชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาเมื่อโจทก์ฟ้องขับไล่อ้างสภาพแห่งข้อหาว่าจำเลยผิดสัญญา ข้อฎีกาดังกล่าวจึงเป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควร ได้รับการวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคแรก ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาจำเลยชอบแล้วให้ยกคำร้อง

Share