แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งว่าอุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 จึงไม่รับอุทธรณ์
จำเลยเห็นว่า อุทธรณ์ที่ว่า ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยเรื่องจำเลยได้ตกลงให้โจทก์ทดลองงานเป็นเวลาเพียง 3 เดือนโดยไม่ได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานในสำนวน จึงขัดต่อพยานหลักฐานในคดีไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมายโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 57)
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าว ล่วงหน้าจำนวน 18,000 บาท (หนึ่งหมื่นแปดพันบาท) ค่าชดเชย 18,000 บาท (หนึ่งหมื่นแปดพันบาท) ให้แก่โจทก์ คำขออื่นนอกจาก นี้ให้ยกเสีย
จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 52)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 57)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมาแล้ววินิจฉัยว่า กำหนดทดลองงานของโจทก์มีระยะเวลาเพียง 3 เดือนและจำเลยเลิกจ้างโจทก์หลังจากพ้นกำหนดทดลองงานแล้ว จึงมิใช่เป็นการวินิจฉัยขัดต่อพยานหลักฐานในสำนวน ที่จำเลยอุทธรณ์โต้เถียงจะให้ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า กำหนด ทดลองงานของโจทก์มีระยะ 6 เดือน และจำเลยเลิกจ้างโจทก์ ยังไม่พ้นกำหนดทดลองงาน จึงเป็นการอุทธรณ์โต้แย้งดุลพินิจ ในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานกลางอันเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยชอบแล้ว ยกคำร้อง