แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นการอุธรณ์ ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54 ไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์
โจทก์เห็นว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นการอุทธรณ์ ในปัญหาข้อกฎหมาย โดยอุทธรณ์ว่า เอกสารหมาย จ.2 ซึ่งเป็นเอกสารที่นายธีระดิลกกุลกรรมการคนหนึ่ง ของจำเลยจัดทำขึ้นเพื่อเป็นหลักฐานในการจ่ายเงินแก่โจทก์ ประกอบคำเบิกความของโจทก์และคำเบิกความ ของนายธีระเป็นพฤติกรรมที่แสดงว่าจำเลยตกลงสัญญาว่าจะจ่ายเงินแก่โจทก์ตามฟ้อง เพราะสัญญาจ้างแรงงาน ไม่ต้องทำเป็นหนังสือ การตกลงสัญญากันระหว่างนายจ้าง และลูกจ้าง ในเรื่องเกี่ยวกับสัญญาจ้างแรงงานต่างๆจึงไม่จำต้องทำเป็นหนังสือเช่นกัน พฤติกรรมของจำเลยที่แสดงออกมาบวกกับเอกสาร หมาย จ.2 แสดงให้เห็นว่าเป็นการตกลงสัญญากับโจทก์ว่าจะจ่ายเงินแก่โจทก์ตามฟ้องโปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของโจทก์เพื่อพิจารณา พิพากษาต่อไป
หมายเหตุ ศาลแรงงานกลางส่งสำเนาคำร้องให้แก่ จำเลยโดยวิธีปิดประกาศหน้าศาล (อันดับ 31)
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยชำระค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีจำนวน 3,740 บาท แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้อง(วันที่ 8 มิถุนายน 2536) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ แก่โจทก์คำขออย่างอื่นของโจทก์นอกจากนี้ให้ยกเสีย
โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ดังกล่าว (อันดับ 26)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 27)
คำสั่ง
ศาลแรงงานกลางพิจารณาพยานหลักฐานของโจทก์จำเลย แล้วฟังข้อเท็จจริงว่าในการที่โจทก์ลาออกจากงาน จำเลยตกลงจ่ายเงินช่วยเหลือแก่โจทก์ 228,500 บาท มิได้ตกลงจ่ายเงินให้แก่โจทก์ตามฟ้อง ที่โจทก์อุทธรณ์ว่า ตามเอกสารหมาย จ.2 เป็นการแสดงถึงพฤติกรรม ของจำเลยที่สนับสนุนคำเบิกความของโจทก์ว่า จำเลยตกลงกับโจทก์ว่า ถ้าโจทก์ลาออกจากงานจำเลย จะจ่ายเงินให้โจทก์ตามฟ้องจึงเป็นการโต้เถียงดุลพินิจ ในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานกลาง เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามตาม พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522มาตรา 54 ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง