แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ฎีกาโจทก์ต้องห้าม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220จึงมีคำสั่ง ไม่รับฎีกาโจทก์
โจทก์เห็นว่า ฎีกาที่ว่าพยานหลักฐานของโจทก์ ฟังได้อย่างชัดเจนว่าจำเลยทั้งแปดกระทำความผิด ตามฟ้องของโจทก์เป็นปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของโจทก์ ไว้พิจารณาด้วย
หมายเหตุไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 ที่ 7และที่ 8 ได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่
โจทก์ฟ้องศาลพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งแปดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175,177 ประกอบมาตรา 83,91
ระหว่างการไต่สวนมูลฟ้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ 6 เนื่องจากโจทก์ทิ้งฟ้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ประทับฟ้อง
ระหว่างพิจารณา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายคดีจำเลยที่ 2เนื่องจากไม่ได้ตัวจำเลยที่ 2 มาพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 315)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้(อันดับ317)
คำสั่ง
คดีนี้ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาทั้งปัญหาข้อเท็จจริงและปัญหาข้อกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220ที่แก้ไขใหม่ ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้วศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ให้ยกคำร้อง