แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า รับเป็นฎีกาข้อกฎหมายเฉพาะข้อ 2.2 และข้อ 2.3 ส่วนฎีกาตามข้อ 2.1 เป็นการฎีกาข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกาจึงไม่รับฎีกา ข้อ 2.1จำเลยที่ 1 เห็นว่า ฎีกาข้อ 2.1 ของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า โจทก์เป็นผู้เสียหายหรือไม่ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาข้อ 2.1 ไว้พิจารณา
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 107)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว ให้ประทับฟ้องเฉพาะ จำเลยที่ 1ไว้พิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 จำคุก 1 ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาบางข้อดังกล่าว (อันดับ 102)
จำเลยที่ 1 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 105)
คำสั่ง
พิเคราะห์คำฟ้องฎีกาข้อ 2.1 ของจำเลยที่ 1 แล้ว จำเลยที่ 1ฎีกาว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายเพราะจำเลยที่ 1 ไม่ได้ยืมเงินจากโจทก์เป็นการโต้เถียงว่าจำเลยที่ 1 ยืมเงินจากโจทก์หรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริงฎีกาข้อนี้ของจำเลยที่ 1 จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาข้อ 2.1 ของจำเลยที่ 1 ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง