แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ฎีกาคำสั่งของศาลอุทธรณ์ มีทางชนะคดี โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 127)
คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาคดีถึงที่สุดให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 97,023.28 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ17.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2526เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ หากไม่ชำระให้ยึดทรัพย์จำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 22420 ตำบลสะเตงนอก อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลาพร้อมสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินดังกล่าวขายทอดตลาดมาชำระ ถ้าไม่พอให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสองขายทอดตลาดมาชำระจนครบ ต่อมาโจทก์อ้างว่า จำเลยทั้งสองไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษาและศาลชั้นต้นมีคำสั่งหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีตามคำขอของโจทก์แล้ว โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดชำระหนี้แก่โจทก์แล้วไม่พอชำระ จำเลยทั้งสองยังคงเป็นหนี้โจทก์คิดเพียงถึงวันที่ 4 มีนาคม 2529 เป็นเงิน 36,498.65 บาท โจทก์ยื่นคำแถลงขออายัดบรรดาเงินได้ของจำเลยที่ 1 ที่จะได้รับจากรัฐสภาเพื่อนำมาชำระหนี้ให้โจทก์จนครบหลายครั้ง ศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาตครั้งสุดท้ายโจทก์ยื่นคำร้องอ้างว่าจำเลยที่ 1 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดยะลา มีรายได้จากเงินประจำตำแหน่ง เงินค่ารับรองค่าที่พัก และอื่น ๆ เป็นเงินประมาณเดือนละ 20,000 บาท ขออายัดเงินได้ของจำเลยที่ 1 ซึ่งพึงจะได้รับจากรัฐสภาเพื่อนำมาชำระหนี้โจทก์เดือนละ 5,000 บาท จนกว่าจะชำระหนี้โจทก์ครบถ้วน ศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์ได้ร้องโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันมาก่อนหน้านี้สองครั้งและศาลได้มีคำสั่งไปแล้ว คำร้องของโจทก์จึงเป็นร้องซ้ำ ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นออกหมายอายัดเงินจำนวนเดือนละ 5,000 บาท ไปยังรัฐสภาให้ส่งเงินมายังศาลชั้นต้นเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่โจทก์จนครบ
จำเลยที่ 1 ฎีกา และยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 106,121)อนึ่ง ศาลชั้นต้นมีหนังสืออายัดเงินสิทธิเรียกร้องของจำเลยที่ 1 มาถึงประธานรัฐสภาให้ส่งเงินรายได้ของจำเลยที่ 1 เดือนละ5,000 บาท ไปยังเจ้าพนักงานบังคับคดีแล้ว (อันดับ 128)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้งดการส่งเงินรายได้ของจำเลยที่ 1เดือนละ 5,000 บาท ไปยังเจ้าพนักงานบังคับคดีไว้ก่อนในระหว่างฎีกา