แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาจำเลยทั้งหมดทุกข้อเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จึงไม่รับจำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายทุกข้อที่ควรขึ้นสู่ศาลฎีกาว่า การที่โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานมานำสืบพิสูจน์ให้เห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องแล้วจะลงโทษจำเลยได้เพียงใดหรือไม่ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 84)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335 ลงโทษจำคุก 5 ปี จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม จำคุก 3 ปี 4 เดือน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335 วรรคสาม นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกาศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 82)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 84)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรกที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง