คำสั่งคำร้องที่ 237/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาข้อ 2 ยังเป็นการเถียงว่าโจทก์ไม่สุจริตเป็นฎีกาข้อเท็จจริง ฎีกาข้อ 3 ที่อ้างว่าห้ามเฉพาะฟ้องขับไล่ผู้เช่า ไม่ห้ามในกรณีคดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าซื้อนั้นคดีนี้โจทก์ไม่ใช่ผู้ให้เช่าซื้อ และกฎหมายยังกล่าวถึงขับไล่ผู้อาศัยด้วยข้อกฎหมายที่จำเลยอ้าง จึงไม่เป็นสาระที่ควรให้ศาลฎีกาวินิจฉัย ไม่รับฎีกาจำเลย
จำเลยเห็นว่า คดีนี้โจทก์ผู้ซื้อทรัพย์จากเจ้าของเดิมฟ้องขับไล่จำเลยผู้เช่าซื้อจากเจ้าของเดิมออกจากบ้านพิพาท จึงไม่ใช่คดีฟ้องผู้เช่าให้ออกจากอสังหาริมทรัพย์ไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้วินิจฉัยต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกจากที่ดินและบ้านพิพาทและส่งมอบที่ดินและบ้านพิพาทในสภาพเรียบร้อย ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์จำนวน 3,000 บาท และนับแต่วันถัดจากวันฟ้องไปจนกว่าจำเลยและบริวารจะออกไปจากที่ดินและบ้านพิพาทในอัตราเดือนละ 1,000 บาทแก่โจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกอุทธรณ์ของจำเลย
จำเลยฎีกาลงวันที่ 19 มกราคม 2533 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับในวันเดียวกันนั้น (อันดับ 93)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ ศาลชั้นต้นสั่งว่า ผู้อุทธรณ์ยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาเกินกำหนด 10 วัน ให้ส่งศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่ง (อันดับ 94)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาในวันที่19 มกราคม 2533 ซึ่งเป็นวันที่จำเลยยื่นฎีกา จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2533 เป็นการล่วงพ้นกำหนดเวลาสิบวันนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง คำร้องของจำเลยจึงมิชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ประกอบด้วยมาตรา 247 ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ

Share