คำสั่งคำร้องที่ 3553/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงไม่รับฎีกา
โจทก์เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องบังคับให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ จึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงและฎีกาของโจทก์ก็เป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ไม่วินิจฉัยในประเด็นที่ว่าจำเลย เขียนรายการหนี้สินทั้งหมดรวมทั้งหนี้ตามสัญญาขายฝากให้โจทก์ยึดถือไว้ตามเอกสารหมาย จ.4 ถือว่าเป็นคำมั่นจะขายที่ดินให้โจทก์หรือไม่ ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 225 โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 79 แผ่นที่ 2)
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้จำเลยไปจดทะเบียนไถ่ถอน การขายฝากหรือโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 3128, 58991 และ 58992 ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น คืนให้โจทก์ ให้จำเลยไถ่ถอนการจำนองที่ดินทั้ง 3 แปลง ดังกล่าว ให้ปราศจากภาระติดพัน หากจำเลยไม่ไปขอถือเอา คำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนา
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 64)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 71)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ฟ้องโจทก์เป็นเรื่องเรียกร้องทรัพย์สิน จากผู้ซื้อโดยจะใช้เงินถือได้ว่าเป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ เมื่อราคาทรัพย์สินที่พิพาทไม่เกินสองแสนบาท จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคแรก ฎีกาของโจทก์ที่ว่า โจทก์ได้ใช้สิทธิ ไถ่ทรัพย์สินที่ขายฝากภายในกำหนดเวลาไถ่เป็นการโต้เถียง ดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาล จึงเป็นฎีกาในปัญหา ข้อเท็จจริง ส่วนฎีกาที่ว่าศาลอุทธรณ์ภาค 1 ไม่วินิจฉัย ประเด็นเรื่องคำมั่น ทั้งที่โจทก์ยกประเด็นเรื่องนี้ขึ้นว่ากล่าวมาแต่ศาลชั้นต้นแล้ว จึงไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 นั้น การพิจารณาว่าประเด็นปัญหาใดได้ยกขึ้นว่ากันมาแต่ศาลชั้นต้นหรือไม่ ต้องพิจารณาข้อเท็จจริงจากกระบวนพิจารณาที่ปรากฏตามห้องสำนวนฎีกาของโจทก์ข้อนี้จึงเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่ การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายมีผลอย่างเดียวกับการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ที่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้วให้ยกคำร้อง

Share