คำสั่งคำร้องที่ 3278/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยและผู้ร้องสอดฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้ร้องสอดเสียค่าขึ้นศาล 200,000 บาท ให้จำเลย เสียค่าขึ้นศาล 445 บาท ภายใน 15 วัน
ผู้ร้องสอดเห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินพิพาทและให้ชำระค่าเสียหายเป็นจำนวนทุนทรัพย์ 15,444 บาท ผู้ร้องได้รองสอดว่าที่ดินพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องสอด และผู้ร้องสอดได้ชำระค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์ของโจทก์ มาทั้งในศาลชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์โดยไม่มีผู้ใดคัดค้านว่า ผู้ร้องสอดเสียค่าขึ้นศาลไม่ถูกต้อง การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ ผู้ร้องสอดเสียค่าขึ้นศาลตามราคาประเมินของทางราชการซึ่งประเมินไว้ไร่ละ 500,000 บาท ทั้ง ๆ ที่ราคาซื้อขายที่ดินพิพาทตามสัญญาซื้อขายเอกสารท้ายฟ้องของโจทก์มีราคาทั้งสิ้นเพียง 220,000 บาท คำสั่งศาลชั้นต้นจึงไม่ชอบ โปรดมีคำสั่งให้ผู้ร้องสอดชำระค่าขึ้นศาลตามที่ได้ชำระไว้แล้วด้วย
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้องนี้ (อันดับ 365)
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารออกจาก ที่ดินโฉนดพิพาทและให้จำเลยชำระค่าเสียหายกับค่าเสียหาย เป็นรายเดือน ระหว่างพิจารณาผู้ร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความ ฝ่ายที่สามโดยอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของตน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้ร้องสอดเสียค่าขึ้นศาลให้ถูกต้องผู้ร้องสอดจึงเสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์ที่โจทก์ตั้งมาในขณะฟ้อง ศาลชั้นต้นสั่งรับคำร้องสอด
ศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่ดินโฉนดพิพาทห้ามจำเลยและผู้ร้องสอดเกี่ยวข้องกับที่ดินพิพาทให้จำเลยใช้ค่าเสียหายและค่าเสียหายรายเดือน นับจากวันฟ้อง จนกว่าจะออกจากที่พิพาทแก่โจทก์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยและผู้ร้องสอดฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำเลยและผู้ร้องสอดชำระค่าขึ้นศาลจำนวนดังกล่าว (อันดับ 351)
จำเลยนำค่าขึ้นศาลมาชำระตามคำสั่งศาลชั้นต้นส่วนผู้ร้องสอดอุทธรณ์คำสั่ง (เป็นคำร้องนี้) ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ผู้ร้องสอดอุทธรณ์คำสั่งที่ศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์ (อันดับ 364,365,366)
ศาลชั้นต้นส่งสำนวนให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิจารณาศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งให้ส่งศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่ง(อันดับ 174)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกจากที่ดินพิพาทซึ่งโจทก์อ้างว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ ผู้ร้องได้ร้องสอดเข้ามาว่าที่ดินพิพาทเป็นของผู้ร้อง ขอให้ศาลพิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของผู้ร้อง ดังนั้น คดีระหว่างโจทก์กับผู้ร้องจึงเป็นคดีพิพาทกันในกรรมสิทธิ์ของที่ดินพิพาทผู้ร้องจึงต้องเสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทคือจำนวนตามราคาที่ดินพิพาทในระหว่างที่ร้องสอด ฉะนั้น จึงให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนให้ได้ความว่า ในขณะที่ผู้ร้องยื่นคำร้องสอดเข้ามาในคดีนี้ที่ดินพิพาทมีราคาเท่าใด แล้วคำนวณ ค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาจากราคาดังกล่าว แล้วดำเนินการต่อไป

Share