แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ร่วมฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ฎีกา ของ โจทก์ร่วมต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 ไม่รับฎีกาของโจทก์ร่วม
โจทก์ร่วมเห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งหกมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297,83 จำคุกจำเลยคนละ 1 ปีศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยทั้งหกมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295,83 จำคุกคนละ 1 ปีและปรับคนละ 1,000 บาท โดยให้รอการลงโทษจำคุกไว้คนละ 1 ปี เป็นการพิพากษาแก้ทั้งบทมาตราที่ลงโทษและแก้ไขโทษที่จะลง จึงเป็นการแก้ไขมาก ไม่ต้องห้ามฎีกา โปรดรับฎีกาของโจทก์ร่วม ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยที่ 1,3,4,5,6 ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 139,140,141,142)
ระหว่างพิจารณา ศาลชั้นต้นอนุญาตให้นายพัลลภจิตอุดมวัฒนาผู้เสียหาย เข้าเป็นโจทก์ร่วม
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งหกมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297,83 จำคุกคนละ 1 ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งหกมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295,83 จำคุกคนละ 1 ปีและปรับคนละ 1,000 บาท พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีที่โจทก์ร่วมเป็นผู้กระทำขึ้นเกี่ยวเนื่องกับการที่จำเลยทั้งหกกระทำความผิดคดีนี้ ทั้งจำเลยทั้งหกไม่เคยกระทำความผิดมาก่อนจึงเห็นควรรอลงโทษจำคุกไว้ คนละ 1 ปี
โจทก์ร่วมฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 135)
โจทก์ร่วมยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 136)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกจำเลยทั้งหกไม่เกินสองปี และศาลอุทธรณ์ยังคงลงโทษไม่เกินกว่ากำหนดที่ว่ามานี้ แม้จะแก้บทมาตราที่ลงโทษและปรับมาด้วยเป็นการแก้มาก คดีโจทก์ร่วมก็ต้องห้ามมิให้ฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ร่วมชอบแล้วให้ยกคำร้อง