แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าคดีนี้ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 ที่แก้ไขแล้ว มีคำสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์เป็นปัญหาและเป็นกรณีพิเศษที่ควรอนุญาตให้ยื่นฎีกาได้ทั้งนี้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ ทนายผู้ร้อง ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 53)
คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระข้าวเปลือกจำนวน 190 ถังใหญ่ หรือชำระเงิน จำนวน 15,580 บาท แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยคิดเป็นข้าวเปลือกต้น 2 ถังต่อดอกเบี้ย 1 ถัง จากข้าวเปลือกตันจำนวน 55 ถัง นับแต่ วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระข้าวเปลือกหรือ เงินเสร็จ ฯลฯ จำเลยทั้งสองไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา โจทก์ขอหมายบังคับคดีและ นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพร้อมบ้านซึ่งเป็นของจำเลยทั้งสอง เพื่อขายทอดตลาดนำเงินชำระหนี้แก่โจทก์ ผู้ร้องยื่นคำร้อง ว่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นของผู้ร้องขอให้ศาลสั่งถอนการยึด
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยก คำร้องของ ผู้ร้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับ ให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 48)
โจทก์ยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 50)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ทุนทรัพย์ไม่เกินสองแสนบาท โจทก์ ฎีกาในข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ที่แก้ไขแล้วที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง ค่าคำร้องเป็นพับ
