แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับศาลชั้นต้นสั่งฎีกาว่า โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยและบริวารออกจากอสังหาริมทรัพย์อันอาจให้เช่าได้ในขณะยื่นคำฟ้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาทต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคสองที่แก้ไขเพิ่มเติมตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2534มาตรา 18 จึงไม่รับฎีกา และมีคำสั่งไม่รับคำร้องขอทุเลาการบังคับ ของจำเลยด้วย
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยมีปัญหาข้อกฎหมายที่สำคัญอยู่ หลายประการเช่น โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ จำเลยอยู่ในที่พิพาท โดยสิทธิการเช่าหรือสิทธิอาศัย และโจทก์บอกกล่าวให้จำเลยออกไป จากที่พิพาทแล้วหรือไม่ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาและคำร้องขอทุเลา การบังคับของจำเลยด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 96)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยกับบริวารออกไปจากที่ดินพิพาทและสิ่งปลูกสร้างติดที่ดินภายใน 30 วัน นับถัดจากวันทราบคำบังคับกับ ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ 80,000 บาท และให้ชดใช้ ค่าเสียหายให้อีกเดือนละ 10,000 บาท โดยนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2531 เป็นต้นไป จนกว่าจำเลยกับบริวารออกไปจากที่ดินพิพาทและ สิ่งปลูกสร้างติดที่ดิน
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาและคำร้องขอทุเลาการบังคับดังกล่าว (อันดับ 90,92)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 94 แผ่นที่ 2)
คำสั่ง
คดีนี้เป็นคดีฟ้องขับไล่จำเลยออกจากอสังหาริมทรัพย์อันอาจให้เช่าได้ในขณะยื่นคำฟ้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ที่แก้ไขแล้วปัญหาที่จำเลยยกขึ้นฎีกาเรื่องหนังสือมอบอำนาจก็ดี การอยู่ใน ที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิการเช่าหรือไม่ก็ดี และเรื่องค่าเสียหายล้วน เป็นปัญหาข้อเท็จจริงทั้งสิ้น ที่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาและไม่รับคำร้องขอทุเลาการบังคับชอบแล้วให้ยกคำร้อง