คำสั่งคำร้องที่ 2281/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ที่ 1 และที่ 2 ฎีกา และคดีนี้ครบกำหนดยื่นฎีกาวันที่ 5 มีนาคม 2536 โจทก์ที่ 1 และที่ 2 มีความประสงค์ที่จะอ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 5474/2533 ซึ่งได้แนบมาท้ายฎีกาเป็นพยานเพิ่มเติมในชั้นฎีกา รายละเอียดปรากฏ ตามบัญชีพยานเพิ่มเติมชั้นฎีกา ที่แนบมาพร้อมคำร้อง เนื่องด้วย ประเด็นข้อพิพาทจากคำพิพากษาฎีกาดังกล่าว กับประเด็นในคดีแพ่งทั้งสองสำนวนนี้เป็นประเด็นเดียวกัน มูลคดี และคู่ความเดียวกัน โจทก์จึงเห็นว่าคำพิพากษาฎีกาดังกล่าวนั้นเป็นพยานสำคัญสมควร จะได้นำมาประกอบการพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดคดีแพ่งทั้งสองสำนวนนี้ ในชั้นฎีกาด้วย และพฤติการณ์ไม่เปิดช่องให้โจทก์อ้างคำพิพากษา ฎีกาดังกล่าวเป็นพยานของโจทก์ในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ได้ เพราะ เพิ่งจะได้อ่านคำพิพากษาฎีกาให้คู่ความฟังเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2534 เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม โปรดอนุญาต ให้โจทก์ระบุอ้างคำพิพากษาฎีกาดังกล่าวเป็นพยานของโจทก์ เพิ่มเติมในชั้นฎีกาด้วย
หมายเหตุ จำเลยทั้งสองได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 257)
คดีทั้งสองสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษารวมกันโดยให้เรียกโจทก์ในสำนวนแรกและจำเลยในสำนวนหลัง ว่า โจทก์ที่ 1 และโจทก์ที่ 2 และให้เรียกจำเลยในสำนวนแรกและโจทก์ ในสำนวนหลังว่า จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ที่ 1 ในคดีหมายเลขดำที่ 376/2527(สำนวนแรก) และให้โจทก์ที่ 2 คือจำเลยในคดีหมายเลขดำที่ 3249/2527 (สำนวนหลัง) ชำระเงินจำนวน 2,106,986.30 บาท ให้แก่จำเลยที่ 2 คือโจทก์ในคดีหมายเลขดำ ที่ 3249/2527 พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ในต้นเงิน 2,000,000 บาท นับถัดจากวันฟ้อง (วันฟ้อง 7 กุมภาพันธ์ 2527) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระให้เสร็จ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ที่ 1 และที่ 2 ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 251,253 แผ่นที่ 2)

คำสั่ง
เพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาดข้อสำคัญแห่งประเด็นเป็นไปโดยเที่ยงธรรมจึงให้รับบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมของโจทก์

Share