คำสั่งคำร้องที่ 1494/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 1 ที่ 8 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่าทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท ฎีกาของจำเลยเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่ง จึงไม่รับฎีกา
จำเลยที่ 1 ที่ 8 เห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ว่าสัญญากู้และสัญญาค้ำประกันไม่สมบูรณ์และไม่ถูกต้อง รับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีไม่ได้ และจำเลยที่ 8 เป็นผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาลโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยที่ 1 ถึงที่ 7 ในฐานะทายาทโดยธรรมให้รับผิดเพราะมีผู้จัดการมรดกแล้ว ล้วนเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ ทนายโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 105)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ให้จำเลยทั้งแปดร่วมกันชำระเงิน60,000 บาทให้แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีจากเงินต้นดังกล่าว คิดแต่วันที่ 11 มีนาคม 2533 จนกว่าจะชำระเสร็จ
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ที่ 8 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 96)
จำเลยที่ 1 ที่ 8 ยื่นคำร้องนี้ โดยมิได้นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 หรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234(อันดับ 101)

คำสั่ง
จำเลยที่ 1 ที่ 8 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาโดยไม่นำเงินมาชำระหรือหาประกันมาวางศาลตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ประกอบด้วยมาตรา 247 จึงให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ

Share