แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษกักขังแทนโทษจำคุกศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา219ตรีและไม่สามารถรับรองให้ฎีกาตามมาตรา221ได้การรับรองให้ฎีกาของอัยการสูงสุดจึงไม่ชอบ
ย่อยาว
ความ ว่า จำเลย ฎีกา ศาลชั้นต้น มี คำสั่ง ว่า ฎีกา ของ จำเลย เป็น ฎีกา ใน ปัญหาข้อเท็จจริง คดี นี้ ศาลชั้นต้น ลงโทษ กักขัง แทน โทษ จำคุก ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 พิพากษายืน คดี จึง ต้องห้าม ฎีกา ใน ปัญหาข้อเท็จจริง ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ตรี และ ไม่สามารถ รับรอง อนุญาต ให้ ฎีกา ได้ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 การ รับรอง ให้ ฎีกา ของ อัยการ สูงสุด ไม่ต้อง ด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 จึง ไม่รับ ฎีกา ของ จำเลย
จำเลย เห็นว่า ฎีกา ของ จำเลย เป็น ฎีกา ใน ปัญหาข้อกฎหมาย และ ปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อ จำเลย ยื่น คำร้องขอ ให้ อัยการ สูงสุด รับรอง ฎีกา และ อัยการ สูงสุด ได้รับ รอง ฎีกา ให้ จำเลย แล้ว จำเลย จึง มีสิทธิ ฎีกา ใน ปัญหาข้อเท็จจริง ได้ โปรด มี คำสั่ง รับ ฎีกา ของ จำเลย ไว้ พิจารณา ต่อไป
หมายเหตุ ไม่ปรากฏ หลักฐาน ว่า โจทก์ และ โจทก์ร่วม ทั้ง สอง ได้รับ สำเนา คำร้อง แล้ว หรือไม่
ระหว่าง พิจารณา นาง สมบัติ พลอย ศรีทองและเด็กหญิงขัตติ ยา พลอย ศรีทอง โดยนางสมบัติ พลอ ยศ รี ทอง ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้เสียหาย ยื่น คำร้องขอ เข้าร่วม เป็น โจทก์ ศาลชั้นต้น อนุญาต
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300, 390 พระราชบัญญัติ จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43(4), 157 พระราชบัญญัติ จราจรทางบก ( ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2535 มาตรา 27 เป็น กรรมเดียว ผิด กฎหมาย หลายบท ให้ ลงโทษ ฐาน ประมาท เป็นเหตุ ให้ ผู้อื่น ได้รับ อันตรายสาหัส ซึ่ง เป็น บทหนัก ที่สุด พิเคราะห์ แล้ว เห็นว่า จำเลย ได้ วางเงิน ชดใช้ ค่าเสียหาย ให้ โจทก์ร่วม ต่อ ศาล เป็น จำนวน 30,000 บาท อันเป็น การ บรรเทา ความเสียหาย ส่วน หนึ่ง แล้ว จึง เห็นควร ลงโทษ จำเลย สถาน เบา จำคุก 4 เดือน จำเลย ให้การรับสารภาพ ลดโทษ ให้ กึ่งหนึ่ง คง จำคุก 2 เดือน ไม่ปรากฏ ว่า จำเลย เคย ต้องโทษ จำคุก มา ก่อน จึง เห็นควร เปลี่ยน โทษ จำคุก เป็น โทษ กักขัง มี กำหนด 2 เดือน ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 23
ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลย ฎีกา พร้อม กับ ยื่น คำร้อง ว่า อัยการ สูงสุด ได้รับ รอง ให้ จำเลย ฎีกา ใน ปัญหาข้อเท็จจริง แล้ว ปรากฏ ตาม หนังสือ ที่ อส .0015.4/15136 ลงวันที่ 16 ตุลาคม 2539 ศาลชั้นต้น มี คำสั่ง ไม่รับ ดังกล่าว ( อันดับ 86, 85 แผ่น ที่ 2)
จำเลย จึง ยื่น คำร้อง นี้ ( อันดับ 87)
คำสั่ง
พิเคราะห์ แล้ว คดี นี้ ศาลชั้นต้น พิพากษา ลงโทษ กักขัง แทน โทษ จำคุก ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 พิพากษายืน คดี จึง ต้องห้าม ฎีกา ใน ปัญหาข้อเท็จจริง ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ตรี และ ไม่สามารถ รับรอง ให้ ฎีกา ได้ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 ฎีกา ของ จำเลย ที่ ขอให้ ศาล รอการลงโทษ เป็น ฎีกา ใน ปัญหาข้อเท็จจริง ไม่สามารถ รับรอง ให้ ฎีกา ได้ ตาม กฎหมาย ดังกล่าว การ รับรอง ให้ ฎีกา ของ อัยการ สูงสุด จึง ไม่ชอบ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 ที่ ศาลชั้นต้น สั่ง ไม่รับ ฎีกา ของ จำเลย นั้น ชอบแล้ว ให้ยก คำร้อง