คำสั่งคำร้องที่ 2803/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาจำเลยที่ 1 จึงยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกา ของจำเลยที่ 1 ศาลชั้นต้นสั่งอุทธรณ์ว่า เนื่องจากจำเลยที่ 1ไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 จึงให้จำเลยที่ 1 นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาล ภายใน 15 วัน มิฉะนั้นถือว่าทิ้งอุทธรณ์ จำเลยที่ 1 เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 252 กล่าวถึงการที่ เมื่อจำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกาของจำเลยศาลชั้นต้นจะต้องส่งอุทธรณ์ไปยังศาลฎีกาพร้อมกับฎีกาเพื่อให้ศาลฎีกาเป็นผู้วินิจฉัยและมีคำสั่ง อำนาจเช่นว่านี้เป็นอำนาจโดยเฉพาะของศาลฎีกา ซึ่งรวมถึงอำนาจในการที่จะมีคำสั่งให้จำเลยนำเงินมาชำระ ตามคำพิพากษาหรือหาประกันมาวางต่อศาลด้วย การที่ศาลชั้นต้น เป็นผู้มีคำสั่งในเรื่องนี้เองจึงเป็นการไม่ชอบ และกรณีนี้มี มาตรา 252 บัญญัติไว้แล้ว จึงนำมาตรา 234 มาใช้กับกรณีของ จำเลยไม่ได้ ขอศาลฎีกาได้โปรดมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของ ศาลชั้นต้นและมีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นส่งคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง ศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกาให้ศาลฎีกาวินิจฉัยต่อไปด้วย หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานในสำนวนว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์จำนวน 75,500 บาท และร่วมกันชำระดอกเบี้ยจากต้นเงินจำนวนดังกล่าวในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับจากวันฟ้อง (วันที่ 14 ตุลาคม 2536) จนกว่าจะชำระเสร็จ แก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา จำเลยอุทธรณ์ คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว(อันดับ 66,68) จำเลยที่ 1 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 70)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า การยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่ยอมรับฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 252 นั้น คู่ความผู้ยื่นคำร้องจะต้องนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกัน ให้ไว้ต่อศาลภายในกำหนด 15 วัน ตามมาตรา 234ประกอบด้วยมาตรา 247 ด้วย โดยศาลชั้นต้นไม่จำต้องมีคำสั่งให้คู่ความนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันมาวางศาล ก่อนก็ได้ คดีนี้จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา โดยมิได้นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันมาวางศาล เป็นการไม่ชอบด้วยบทกฎหมายดังกล่าวแต่เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่ง กำหนดเวลาให้จำเลยที่ 1 ปฏิบัติดังกล่าวซึ่งนับว่า เป็นประโยชน์แก่จำเลยที่ 1 มากแล้ว แทนที่จำเลยที่ 1 จะปฏิบัติตามคำสั่งศาลชั้นต้น กลับยื่นคำร้องนี้โดยมิได้วางเงิน ตามคำสั่งของศาลชั้นต้น กรณีไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนคำสั่ง ศาลชั้นต้น จึงให้ยกคำร้องนี้และให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง ไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 1 เสียด้วย ค่าคำร้องที่เสียเกินมา 160 บาท ให้คืนแก่จำเลยที่ 1

Share