คำสั่งคำร้องที่ 2332/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ร่วมฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงที่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 จึงไม่รับฎีกาของโจทก์ร่วม โจทก์ร่วมเห็นว่า ฎีกาของโจทก์ร่วมเป็นปัญหาข้อกฎหมายโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ร่วมไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าโจทก์และจำเลยได้รับสำเนาคำร้อง แล้วหรือไม่ ระหว่างพิจารณา บริษัทธนานันท์ฮาร์ดแวร์ จำกัดผู้เสียหายยื่น คำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ให้จำคุกตามเช็คฉบับแรก 1 ปี จำคุกตามเช็คฉบับที่สอง 2 เดือน รวมจำคุก 1 ปี 2 เดือนจำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา นับเป็นเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78เห็นสมควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 7 เดือน ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ความผิดกระทงแรกให้ลงโทษจำคุก 4 เดือน ปรับ 60,000 บาท ความผิดกระทงที่สอง จำคุก 1 เดือน ปรับ 7,000 บาท รวมจำคุก 5 เดือน ปรับ 67,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุ บรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 เดือน 15 วัน ปรับ 33,500 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 1 ปี ไม่ชำระค่าปรับ จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30 นอกจากที่แก้ ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์ร่วมฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 82) โจทก์ร่วมจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 83)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 2 กระทง กระทงละไม่เกิน 2 ปี ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษา แก้แต่ยังคงให้ลงโทษจำคุกจำเลยกระทงละไม่เกิน 2 ปี และ ปรับ ไม่เกินกระทงละ 40,000 บาท แม้ศาลอุทธรณ์ภาค 3 จะ รอการลงโทษ จำคุกให้จำเลยซึ่งถือว่าเป็นการแก้ไขมาก ก็ต้องห้ามมิให้โจทก์ร่วม ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 การที่โจทก์ร่วมฎีกาโต้แย้งเกี่ยวกับดุลพินิจของ ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ว่าไม่สมควรลดโทษจำคุกให้จำเลยและไม่สมควร รอการลงโทษจำเลยนั้น เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้น สั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ร่วมชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share