แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา มีทางชนะคดี โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 125) คดีสำนวนนี้ (หมายเลขแดง 1234/2536) เดิมเคยพิจารณาพิพากษารวมกันกับคดีแพ่ง หมายเลขแดงที่ 1233/2536, 1235/2536,1236/2536,1237/2536 และ 1238/2536 แต่คดีแพ่งทั้งห้าสำนวนดังกล่าว ถึงที่สุดโดยคู่ความมิได้ฎีกา ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยทั้งหกและบริวารขนย้ายเครื่องใช้สัมภาระสิ่งของต่าง ๆ ออกจากที่ดินพิพาทโฉนดเลขที่ 11015 ตำบลสำโรงเหนือ (สำโรงฝั่งใต้)อำเภอเมืองสมุทรปราการ (เมือง) จังหวัดสมุทรปราการและให้จำเลยทั้งหกใช้ค่าเสียหายคนละ 500 บาท ต่อเดือนแก่โจทก์ นับจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งหก และบริวารจะออกจากที่ดินพิพาท คำขอนอกจากนี้ให้ยก ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นรับฎีกาเฉพาะข้อ 2.1 พร้อมกับยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 113,114) ชั้นอุทธรณ์จำเลยยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับ ศาลอุทธรณ์ภาค 2 มีคำสั่งว่าคำร้องขอทุเลาการบังคับ ของจำเลยทั้งหกไม่ได้ชี้แจงเหตุอันสมควรในการขอทุเลาการบังคับเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 231 ให้ยกคำร้อง (อันดับ 89)
คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว การขอทุเลาการบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 231 นั้น ต้องเป็นกรณีที่ยังไม่มีการบังคับคดีตามคำพิพากษา ไม่ว่าของศาลใดปรากฏตามคำร้องและคำคัดค้านว่าศาลอุทธรณ์ ไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับ โจทก์ขอให้บังคับคดีและ เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังคับคดีแล้ว การที่จำเลย ยื่นคำร้องเข้ามา จะถือว่าเป็นการขอทุเลาการบังคับตาม คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ไม่ได้ แต่เป็นกรณีที่จำเลยขอ ให้งดการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 292(2) ซึ่งอยู่ในอำนาจของศาลชั้นต้นที่จะมีคำสั่ง ว่ามีเหตุสมควรให้งดการบังคับคดีไว้หรือไม่ จึงให้ส่งคืน ศาลชั้นต้นเพื่อพิจารณาสั่งคำร้องของ จำเลยต่อไป