คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1068/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มีที่ดิน 1 แปลงไม่มีโฉนด ได้ให้จำเลยอาศัยปลูกเรือน บัดนี้ โจทก์ต้องการใช้ที่ดิน จึงขอให้จำเลยรื้อเรือน โจทก์จำเลยรับกันว่าที่พิพาทเดิมเป็นคลองติดอยู่กับที่ดินของโจทก์ แล้วตื้นเขินขึ้น จำเลยไม่ได้อาศัยโจทก์ รูปคดีเช่นนี้ไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินของโจทก์ ศาลจะไปวินิจฉัยชี้ขาดขับไล่จำเลย โดยอ้างว่าจำเลยปลูกสร้างกีดขวางหน้าที่ดินของโจทก์หาได้ไม่ เพราะโจทก์มิได้ฟ้องตั้งรูปคดีมาเช่นนั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มีที่ดิน 1 แปลงยังไม่มีโฉนด โจทก์ได้ให้จำเลยทั้ง 2อาศัยปลูกเรือนอยู่ในที่ดินแถบหน้าที่ดินบัดนี้โจทก์ต้องการที่ดินใช้ทำประโยชน์ จึงได้ให้จำเลยรื้อเรือนออกจากที่ดิน จำเลยไม่ยอม จึงขอให้บังคับจำเลยรื้อเรือนและสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินของโจทก์ จำเลยให้การว่าไม่เคยอาศัยที่ดินของโจทก์จำเลยทำแพอาศัยอยู่ในคลองบางศาลาต่อมาที่ดินตอนนี้ตื้นเขิน ทางราชการประกาศให้จำเลยรื้อแพจำเลยขออนุญาตกำนันผู้ใหญ่บ้านปลูกกระท่อมอาศัยอยู่จนบัดนี้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย คู่ความรับกันว่าที่พิพาทนี้เดิมเป็นคลองบางศาลา ซึ่งติดอยู่กับที่ดินของโจทก์แล้วตื้นเขินขึ้น ถึงฤดูน้ำ ๆ ท่วม ถึงฤดูแล้งน้ำแล้ง ศาลชั้นต้นจึงงดสืบพยานแล้ววินิจฉัยว่าที่พิพาทจะเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์หรือไม่ไม่สำคัญที่พิพาทอยู่หน้าที่ดินของโจทก์ ๆ มีสิทธิห้ามไม่ให้จำเลยกีดขวางชายตลิ่งได้ พิพากษาให้จำเลยรื้อเรือนและสิ่งปลูกสร้างออกจากที่พิพาท

ศาลอุทธรณ์เห็นว่าควรฟังข้อเท็จจริงต่อไป พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นสืบพยานคู่ความต่อไปแล้วพิพากษาตามรูปคดี

โจทก์ฎีกาขอให้พิพากษาตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยเห็นว่า เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลย่อมยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ไม่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน และโจทก์มิได้ตั้งรูปคดีมาในทางปลูกสร้างกีดขวางหน้าที่ดินของโจทก์

พิพากษายืน

Share