แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่จะเป็นทรัสต์นั้น ต้องมีข้อความเห็นได้ว่ายกกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ให้ แต่ผูกมัดไว้ว่าผู้ได้รับกรรมสิทธิ์นั้นจะต้องใช้ทรัพย์นั้นให้เป็นประโยชน์แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือหลายคนอันกำหนดตัวแน่นอนหรือเพื่อสาธารณกุศลอันแน่นอน การที่สั่งไว้ในพินัยกรรมว่าให้เก็บผลประโยชน์ทรัพย์ของผู้วายชนม์ไว้สำหรับทำบุญให้ผู้วายชนม์ ต่อไปนั้นเป็นคำที่กว้างไม่แน่นอนว่าอะไรต้องเข้าใจว่าเพียงแต่ผู้วายชนม์ได้แสดงความประสงค์ไว้เช่นนั้นยังไม่ใช่ทรัสต์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์และจำเลยมีสิทธิได้รับมรดกที่ดินโฉนดที่ 2197 ตำบลถนนเจริญกรุง พระนคร จึงทำสัญญาประนีประนอมยอมความแบ่งเป็น 8 ส่วน โจทก์มีส่วนได้ทั้งหมดรวม 4 ส่วน เป็นเงิน 5,892 บาท 50 สตางค์ จึงฟ้องขอแบ่ง
จำเลยที่ 1 ต่อสู้ว่า ทำสัญญาประนีประนอมไปโดยสำคัญผิดในสิ่งที่เป็นสาระสำคัญ ที่แปลงนี้เดิมเป็นของนางพัน ๆ ทำพินัยกรรมสั่งไว้ให้เก็บผลประโยชน์ทำบุญ ไม่ได้ระบุไว้ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ใด นางพันตายแล้ว นางสาวก้อนได้ลงชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์และได้ปกครองมาโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกินกว่า 10 ปีแล้วนางสาวก้อนย่อมได้กรรมสิทธิ์ และนางสาวก้อนได้ทำพินัยกรรมยกให้จำเลยที่ 1 เวลานี้ นางสาวก้อนตายแล้ว จึงตกได้แก่จำเลยที่ 1 พระยาภรตราชสุพิธผู้ถือพินัยกรรม นางพันบอกว่าโจทก์มีส่วนได้ในที่แปลงนี้ตามพินัยกรรม แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น จำเลยได้บอกล้างเจตนาไปยังโจทก์แล้ว
จำเลยที่ 2 ต่อสู้ว่า ไม่ได้ครอบครองที่พิพาทและต่อสู้อย่างจำเลยที่ 1
ศาลแพ่งเห็นว่า นางพันมีเจตนาก่อตั้งทรัสต์โดยให้นางสาวก้อนเป็นทรัสต์ตี และนางพันตายก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์จึงย่อมมีผลบังคับได้ ไม่มีทางจะแบ่งแยกให้โจทก์ จึงพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า พินัยกรรมของนางพัน มีความว่า นางพันมีบุตรหญิงชายรวมกัน 6 คน จึงระบุแบ่งทรัพย์ให้เป็นคน ๆ ไป พอถึงนางสาวก้อนบุตรสาวพินัยกรรมกล่าวว่า ที่ดินริมถนนเจริญกรุงตามที่หมายอักษร จ. ในแผนที่ ให้แก่อำแดงก้อน กับให้อำแดงก้อนได้ที่บ้านที่หมายเส้นสีแดงกับเรือนและทรัพย์สิ่งของต่าง ๆ ที่เหลือจากแบ่งให้แก่บุตรทั้ง 5 คน ส่วนที่ดินที่ตึกที่ตรอกโรงโคมนั้นให้อำแดงก้อนขายเอาเงินไว้สำหรับทำบุญหรือทำศพให้แก่นางพันเมื่อทำศพแล้วมีเหลือเท่าใดให้แก่อำแดงก้อนทั้งสิ้น ส่วนโรงแถว 7 ห้องกับที่ดินทางเดินในที่นั้นที่หมายเส้นแดงในแผนที่นั้น ให้อำแดงก้อนเก็บผลประโยชน์ในที่นั้นไว้สำหรับทำบุญให้นางพันต่อไป
ศาลฎีกาเห็นว่า ที่จะเป็นทรัสต์นั้นต้องมีข้อความเห็นได้ว่ายกกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ให้ แต่ผูกมัดไว้ว่าผู้ได้รับกรรมสิทธิ์นั้นจะต้องใช้ทรัพย์นั้นให้เป็นประโยชน์แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือหลายคนอันกำหนดตัวแน่นอนหรือเพื่อสาธารณกุศลอันแน่นอน การสั่งเพียงว่าให้ทำบุญนี้เป็นคำกว้างไม่แน่นอนว่าอะไร เมื่ออ่านพินัยกรรมแล้วต้องเข้าใจว่า เพียงแต่นางพันได้แสดงความประสงค์ไว้เช่นนั้นยังไม่ใช่ทรัสต์
จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลล่างให้ศาลแพ่งดำเนินการพิจารณาใหม่ตามรูปความ