คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 16/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามพินัยกรรมได้ระบุทรัพย์ที่ยกให้แก่บรรดาทายาทไว้เป็นกิจลักษณะ ย่อมถือว่าผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรมเป็นผู้รับในลักษณะเฉพาะตามความใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม.1651(2) ต้องรับภาระผูกพันเช่นภาระจำนองที่ติดอยู่กับทรัพย์ที่ตนรับด้วย
ข้อความในพินัยกรรมข้อหนึ่งที่กล่าวว่า ‘ทรัพย์สินอันใดที่มิได้ระบุไว้ข้างต้นบรรดาที่มีเหลืออยู่ในวันที่ข้าพเจ้าวายชนม์ลงจะเป็นสังหาริมทรัพย์ก็ดีอสังหาริมทรัพย์ก็ดี ให้ผู้จัดการมรดกรวมขายเอาเงินทำศพ และจัดการมรดกของข้าพเจ้าและทำบุญในส่วนกุศลสาธารณะประโยชน์ได้ตามที่เห็นสมควร’นั้น เป็นข้อความกำหนดที่สั่งให้ผู้จัดการมรดกจัดการขายทรัพย์ที่มิได้ระบุให้ผู้ใด ไว้ขายเอาเงินทำศพและทำบุญมิได้หมายความให้ไถ่ถอนการจำนองหรือชำระหนี้สินในทรัพย์ที่ระบุให้แก่ผู้ใดไว้แล้ว เพื่อผู้นั้น
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1740 เป็นเรื่องบัญญัติถึงวิธีให้ผู้จัดการมรดกจัดการทรัพย์มรดกเท่านั้นมิได้หมายความจะให้ลบล้างความในมาตรา 1651(2)

ย่อยาว

ได้ความว่า คุณหญิงประชุมมนตรีสุริวงศ์ได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สมบัติให้บุคคลหลายคนรวมทั้งโจทก์ด้วย โจทก์มีสิทธิจะได้รับทรัพย์มรดกตามพินัยกรรม คือตึกแถว 2 ห้อง อันรวมอยู่ในที่ดินแปลงหนึ่ง แต่ปรากฏว่าก่อนวายชนม์คุณหญิงประชุมมนตรีสุริวงศ์ ได้จำนองที่ดินแปลงนี้พร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างไว้แก่นางสายหยุดบุนนาค ภายหลังนางสายหยุดได้ฟ้องบังคับจำนอง ศาลแพ่งพิพากษาให้ทายาทหรือผู้จัดการมรดกไถ่ถอนการจำนองนั้น ผู้จัดการมรดกจึงได้จัดการไถ่ถอนการจำนองนั้นมาตามคำพิพากษา คิดเฉลี่ยเฉพาะ 2 ห้องที่โจทก์จะได้รับเป็นเงิน2,275 บาท

โจทก์ร้องขอให้จำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกแก้ทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ตึก 2 ห้องดังกล่าวให้โจทก์โดยปลอดการจำนองและค่าภารติดพัน จำเลยจะให้โจทก์ชำระหนี้ไถ่ถอนการจำนอง 2,275 บาท เสียก่อน ไม่ตกลงกัน โจทก์จึงนำคดีมาฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยให้แก้ทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ตึก 2 ห้องให้แก่โจทก์โดยไม่ต้องมีภาระติดพัน

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ จึงพิพากษายกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ตามพินัยกรรมได้ระบุทรัพย์ที่ยกให้แก่บรรดาทายาทไว้เป็นกิจจะลักษณะ ฉะนั้น โจทก์ผู้รับทรัพย์ในลักษณะเฉพาะเช่นนี้ ย่อมต้องรับภาระผูกพันในทรัพย์ที่ตนรับด้วยดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1651(2) ส่วนความในพินัยกรรมข้อ 10 ที่กล่าว “ทรัพย์สินอันใดที่มิได้ระบุไว้ข้างต้นบรรดาที่มีเหลืออยู่ในวันที่ข้าพเจ้าวายชนม์ ลง จะเป็นสังหาริมทรัพย์ก็ดี อสังหาริมทรัพย์ก็ดี ให้ผู้จัดการมรดกรวมขายเอาเงินทำศพ และจัดการมรดกของข้าพเจ้า และทำบุญในส่วนกุศลสาธารณประโยชน์ได้ตามที่เห็นสมควร” นั้นเป็นข้อกำหนดที่สั่งผู้จัดการมรดก จัดการขายทรัพย์ที่มิได้ระบุไว้ ขายเอาเงินทำศพและทำบุญ มิได้หมายความให้ไถ่ถอนการจำนองหรือชำระหนี้สินในทรัพย์ที่ได้ระบุให้แก่ผู้ใดไว้แล้วเพื่อผู้นั้น จึงพิพากษายืน ให้ยกฟ้องโจทก์

Share