แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยเป็นคนร้ายลักกระบือ 3 ตัวของซ. หรือรับกระบือนั้นไว้ โดยรู้ว่าเป็นของร้าย แต่ทางพิจารณาได้ความว่า กระบือที่ถูกคนร้ายลักไปเป็นกระบือของ ซ.1ตัวอีก2ตัวเป็นของผู้อื่นฝากซ.เลี้ยงไว้ และกระบือ 2 ตัวที่จับได้จากจำเลยเป็นกระบือของผู้อื่นที่ฝาก ซ. ไว้ ดังนี้ จะว่าทางพิจารณาต่างกับฟ้องหาได้ไม่ (อ้างฎีกาที่ 62/2486)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ได้มีคนร้ายลักกระบือของนายซีดารามไป 3 ตัว เจ้าพนักงานพบกระบือ 1 ตัวอยู่ที่จำเลย และอยู่ที่ใกล้หมู่บ้านของจำเลยอีก 1 ตัว โดยจำเลยสมคบกันลักมา หรือมิฉะนั้นสมคบกันรับกระบือไว้จากคนร้ายโดยรู้ว่าเป็นของร้าย ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 296, 321, 63 จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์ 4 ปากแล้วงดสืบพยานโดยวินิจฉัยว่า ในคืนโจทก์หา มีผู้ร้ายลักกระบือไปจากโรงของนายซีดาราม 3 ตัวเป็นกระบือของนายซีดาราม 1 ตัว นายหล่น 1 ตัว และนายหวัง 1 ตัวซึ่งนายหล่น นายหวังฝากนายซีดารามไว้ เจ้าพนักงานจับกระบือได้ 2 ตัวซึ่งเป็นของนายหล่นนายหวัง ดังนี้ ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาต่างกับฟ้อง พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ข้อเท็จจริงที่ต่างกับฟ้องไม่ใช่ข้อสำคัญพิพากษาให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาแล้วพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อจำเลยกระทำการลักได้ความว่ากระบืออยู่ในความครอบครองของนายซีดาราม นอกนั้นกระบืออีก 1 ตัวที่ถูกลักก็เป็นของนายซีดาราม จะว่าทางพิจารณาต่างกับฟ้อง หาได้ไม่
พิพากษายืน