คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1381/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับ ร.และด. จำเลยขายที่นาพิพาทให้โจทก์ ศาลพิพากษาว่า ร.จำเลยเป็นเจ้าของนา ส่วนด. จำเลยเป็นแต่เพียงตัวแทนไม่ต้องรับผิด จึงให้ ร. จำเลยขายนาให้แก่โจทก์ๆ ได้ครอบครองที่นานั้นอยู่แล้ว โจทก์มีหน้าที่ชำระราคาให้แก่ ร. ตามคำพิพากษา แต่โจทก์กลับไปชำระราคาให้แก่ ด. จำเลยอีกคนหนึ่ง ซึ่งศาลพิพากษายกฟ้องไปแล้ว ดังนี้ โจทก์ไม่พ้นความรับผิด. ร. จำเลยมีสิทธิขอให้ศาลยึดที่นาของโจทก์ขายชำระหนี้ได้

ย่อยาว

ความว่า เดิมโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองขายที่นาซึ่งนางกลับมารดาจำเลยทำสัญญาขายให้แก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาฟังว่า ที่รายพิพาทเป็นของนางกลับ นายด้วงเป็นตัวแทนของนางกลับทำสัญญาจะขายให้โจทก์ และรับเงินมัดจำไปแล้ว ก่อนตายนางกลับได้ทำพินัยกรรมยกที่นาให้แก่นายร่วงจำเลย ๆ ผู้ได้รับที่นาไว้จากนางกลับจึงต้องปฏิบัติตามสัญญาที่นางกลับทำไว้จึงพิพากษาให้นายร่วงจำเลยจัดการขายที่พิพาทให้แก่โจทก์นายด้วงจำเลยเป็นตัวแทนไม่ต้องรับผิด ให้ยกฟ้อง โจทก์ไม่นำเงินมาชำระ ศาลได้ออกคำบังคับไปยังโจทก์ ๆ ไม่ปฏิบัติตาม ศาลจึงยึดนาของโจทก์ ๆ ร้องคัดค้านว่านายร่วงไม่มีสิทธิยึด เพราะโจทก์ได้ชำระเงินแก่นายด้วงจำเลยไปแล้ว ขอให้ถอนการยึด ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า เรื่องนี้ศาลได้พิพากษาให้นายร่วงจำเลยขายที่นาให้แก่โจทก์ ๆ ได้ครอบครองที่นานั้นแล้ว โจทก์มีหน้าที่ต้องชำระราคาให้แก่นายร่วงตามคำพิพากษา โจทก์กลับไปชำระให้แก่นายด้วงจำเลยซึ่งศาลได้พิพากษายกฟ้องไปแล้ว จะว่านายด้วงเป็นตัวแทนนางกลับก็ไม่ได้ เพราะนางกลับตายไปแล้ว ความเป็นตัวแทนย่อมระงับไปด้วย และทั้งนางกลับมิได้เป็นคู่ความไม่มีฐานในคดีแต่อย่างใด

พิพากษายืน

Share