คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1507/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยกับผู้ตายเกิดวิวาทชกต่อยกันด้วยมือเปล่าก่อน จำเลยสู้ไม่ได้จึงร้องเรียกให้เพื่อนช่วย เพื่อนเข้ามาช่วยแล้วใช้มีดแทงผู้ตาย ดังนี้ เมื่อมีพฤติการณ์ประกอบให้เห็นว่าการแทงผู้ตายตายนั้น เป็นการกระทำของเพื่อนเอง ซึ่งเกินเลยจากที่จำเลยขอให้ช่วยแล้ว จำเลยก็ยังไม่ควรมีผิดฐานสมคบกับเพื่อนฆ่าผู้ตาย ตาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยสมคบกับพวกใช้กำลังกายเตะชกต่อย และใช้อาวุธมีดแทงทำร้ายพลตำรวจหนู ถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามมาตรา 249

ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยกับผู้ตายเกิดโต้เถียงวิวาทชกต่อยกันขึ้น จำเลยสู้ไม่ได้ เรียกนายเลี่ยมช่วย ผู้ตายถอยหลังตกนอกชานไปยังพื้นดิน จำเลยโดดตามไปนายเลี่ยมก็ตามไป พอผู้ตายลุกขึ้นได้นายเลี่ยมก็ชักมีดแทงถูกลิ้นปี่ผู้ตาย 1 ที ถึงแก่ความตาย

ศาลชั้นต้นเห็นว่า จะฟังว่าจำเลยสมคบกันายเลี่ยมแทงผู้ตายไม่ถนัด พิพากษายกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 251 จำคุก 10 ปี

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า จริงอยู่ตอนแรกผู้ตายกับจำเลยเกิดวิวาทชกต่อยกันขึ้นก่อน แต่เมื่อจำเลยสู้ไม่ได้ จึงเรียกให้นายเลี่ยมช่วย แต่จะหมายความเลยไปถึงว่า จำเลยใช้ให้นายเลี่ยมฆ่าผู้ตายยังไม่ได้เพราะในขณะนั้นนายเลี่ยมจะมีอาวุธอย่างใดหรือไม่ และจะช่วยจำเลยแค่ไหน ถึงกับจะฆ่าผู้ตายหรือไม่ จำเลยไม่อาจจะล่วงรู้ได้ เป็นเรื่องแล้วแต่อำเภอใจของนายเลี่ยม ฉนั้นลำพังถ้อยคำของจำเลยที่ขอให้นายเลี่ยมช่วย ยังไม่พอจะฟังว่าจำเลยสมคบกับนายเลี่ยมฆ่าผู้ตาย เมื่อผู้ตายตกจากชานเรือนไป แม้จำเลยได้โดดตามไปก็ดีจำเลยก็ไปยืนอยู่เฉย ๆ ต่างไม่มีอาวุธ และจำเลยไม่ได้ทำอะไรแก่ผู้ตายอีกเมื่อนายเลี่ยมแทงผู้ตายแล้ว ผู้ตายวิ่งไป จำเลยก็มิได้ไล่ติดตามมาจะทำร้ายแต่อย่างใด จำเลยกับผู้ตายรับราชการอยู่สถานีตำรวจแห่งเดียวกัน ไม่มีสาเหตุกันมาแต่ก่อนอย่างใด เห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ยังไม่เพียงพอจะให้ฟังว่า จำเลยสมคบกับนายเลี่ยมแทงผู้ตายตาย หากเป็นการกระทำของนายเลี่ยมเอง ซึ่งเกินเลยจากที่จำเลยร้องขอให้ช่วย จำเลยจึงยังไม่มีผิดฐานสมคบกับนายเลี่ยมฆ่าผู้ตาย

จึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share