คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1108/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กู้เงินเขาโดยการมอบที่ดินให้เขาไว้เป็นประกัน แม้จะมีข้อสัญญากันว่า เมื่อครบกำหนดแล้วไม่ชำระเงินผู้กู้ยอมยกที่ให้เป็นสิทธิแก่ผู้ให้กู้ ก็ดี ถ้าผู้ให้กู้หาได้ถือสิทธิตามสัญญาไม่ ผู้ให้กู้ยังครอบครองที่ดินนั้นในฐานะเป็นประกันหนี้อยู่อย่างเดิม เช่นนี้ผู้กู้หรือทายาทก็ยังมีสิทธิจะขอชำระหนี้และเรียกที่ดินคืนจากผู้ให้กู้ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า สามีและบิดาของสามีโจทก์กู้เงินจำเลยไป แล้วมอบที่นาและสวนจากให้ไว้เป็นประกัน บัดนี้สามีและบิดาของสามีโจทก์ตาย โจทก์ยื่นคำร้องขอรับมรดกนาและที่สวนจากรายนี้ จำเลยคัดค้านว่า ผู้ตายเป็นหนี้เงินจำเลยอยู่โจทก์ยอมใช้เงินให้ แต่ไม่ตกลงกันเรื่องดอกเบี้ย โจทก์จึงฟ้องขอให้จำเลยรับต้นเงิน 500 บาทกับให้จำเลยเพิกถอนการคัดค้านที่ยื่นไว้ต่ออำเภอ

จำเลยต่อสู้ว่า ผู้ตายกู้เงินจำเลยไปตามฟ้องจริง แต่มีข้อตกลงว่า เมื่อไม่ใช้เงินตามกำหนด ผู้ตายยอมสละสิทธิที่นาและสวนรายนี้ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย และผู้ตายได้สละสิทธิการครอบครองให้จำเลยแล้ว กับต่อสู้อย่างอื่นและฟ้องแย้งด้วย

โจทก์แก้ฟ้องแย้งจำเลยในการพิจารณาจำเลยรับสืบก่อนคู่ความต่างอ้างเอกสารแล้ว ถึงวันสืบพยานคู่ความต่างแถลงไม่ติดใจสืบพยาน

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยรับเงิน 500 บาทจากโจทก์แล้วคืนที่นาที่สวนให้โจทก์

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริง (ตามพยานเอกสารที่โจทก์จำเลยอ้าง) ว่าแม้จะมีข้อสัญญาเมื่อครบกำหนด ผู้กู้ยอมยกที่ให้เป็นสิทธิก็ดี จำเลยก็หาได้ถือสิทธิตามสัญญานั้นไม่ จำเลยยังครอบครองที่พิพาทในฐานะเป็นประกันหนี้อยู่อย่างเดิม โดยยอมให้โจทก์ชำระเงินเป็นการไถ่ถอนไปโจทก์จึงยังมีสิทธิที่จะขอชำระหนี้และเรียกที่พิพาทคืนจากจำเลยได้

จึงพิพากษายืน

Share