คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1610/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พยานเป็นผู้ใหญ่บ้านทั้งมีอาชีพทางทำนาและมีกระบือหลายตัว แม้จะไม่ใช่ผู้ชำนาญการพิเศษก็จริง แต่รู้ลักษณะตำหนิกระบืออยู่บ้างถ้อยคำที่พยานเบิกความในเรื่องตำหนิกระบือถือว่ารับฟังและเชื่อถือได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่ากระบือสีดาของโจทก์ 1 ตัวได้หายไป โจทก์ติดตาม 8 วันแล้ว จึงพบอยู่ที่บ้านจำเลยโจทก์แจ้งความแก่ผู้ใหญ่บ้าน ๆ จับกระบือส่งอำเภอหล่มสักเจ้าพนักงานสอบสวนว่าจำเลยต่อสู้กรรมสิทธิ์มอบกระบือคืนให้จำเลยไป โจทก์จึงมาฟ้องขอให้ศาลบังคับให้จำเลยคืนกระบือให้ ถ้าคืนไม่ได้ให้ใช้ราคา
จำเลยต่อสู้กรรมสิทธิ์
ศาลจังหวัดหล่มสักเชื่อข้อเท็จจริงตามคำพยานโจทก์ว่ากระบือเป็นของโจทก์ พิพากษาให้จำเลยคืนกระบือหรือใช้ราคาทรัพย์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เชื่อว่ากระบือเป็นของจำเลยทั้งกระบืออยู่ในความครอบครองของจำเลยเบื้องต้นต้องสันนิษฐานว่าเป็นของจำเลย ผู้ใดอ้างว่าเป็นของตนมีหน้าที่ต้องพิสูจน์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกาว่า
(ก) ศาลอุทธรณ์ฟังคำนายสอนผู้ใหญ่บ้านไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาเพราะไม่ปรากฏว่าเป็นผู้ชำนาญการพิเศษ
(ข) ศาลอุทธรณ์ไม่ควรถือชื่อกระบือตามสีธรรมชาติเป็นหลักฐาน
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อโจทก์ไปดูกระบือที่บ้านจำเลยต่างฝ่ายต่างอ้างว่าเป็นของตนโจทก์จำเลยพากันไปหานายสอนสามารถผู้ใหญ่บ้านของจำเลย นายสอนสอบถามตำหนิโจทก์ว่า กระบือของโจทก์นัยน์ตาสีวงแหวน 1 ข้าง จำเลยว่าเป็นตาฝ้า 1 ข้าง โจทก์จำเลยต่างมิได้บอกตำหนิอย่างอื่นอีก อันว่าตาวงแหวนหรือตามถั่วกับตาฝ้ามีลักษณะไม่เหมือนกัน ตาวงแหวนเป็นวงกลม มีมาตามธรรมชาติแต่กำเนิดส่วนตาฝ้าเป็นแผ่นขาวกลมมีจุดกลางใสบ้าง ตาฝ้าเกิดจากถูกอะไรเข้าจึงเป็น เมื่อโจทก์จำเลยต่างบอกตำหนิ ดังนั้น นายสอนจึงไปดูกระบือ เห็นตากระบือเป็นตาฝ้า ได้ความดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่า นายสอนผู้ใหญ่บ้านมีอาชีพทางทำนาและมีกระบือหลายตัวแม้จะไม่ใช่ผู้ชำนาญการพิเศษก็จริง แต่รู้ลักษณะตำหนิชนิดนี้อยู่บ้าง จึงเชื่อได้ว่ากระบือพิพาทตาเป็นฝ้าไม่ใช่ตาถั่ว เพราะลักษณะตำหนิทั้งสองอย่างนี้ผิดกันพอที่คนสามัญจะเห็นข้อแตกต่างได้ ถ้ากระบือเป็นของโจทก์จริงโจทก์น่าจะจำตำหนิที่ตาได้ดีเพราะเป็นกระบือลูกคอกของโจทก์ โจทก์เห็นตั้งแต่เกิดมา ส่วนตำหนิรอยถูกกระบือขวิดที่ขาของกระบือพิพาทนั้น โจทก์เพิ่งจะอ้างขึ้นภายหลังเมื่อโจทก์เห็นกระบือแล้ว ตำหนิที่ขาจึงไม่แน่นอนเหมือนดังตำหนิที่ตาซึ่งเป็นตำหนิที่โจทก์ได้บอกแก่นายสอนผู้ใหญ่บ้านก่อนที่โจทก์จะได้พิจารณาดูกระบือโดยถี่ถ้วน นอกจากนั้นก่อนเกิดเหตุเรื่องนี้ 1 เดือน ตกเดือน 4 กระบือของนางลาได้หายไป 1 ตัว นางลาเข้าใจว่าเป็นกระบือตัวพิพาท ได้จูงกระบือตัวพิพาทไปให้บุตรของตนดูเพราะตนเองไม่ได้เป็นผู้เลี้ยงบุตรของนางลาว่าไม่ใช่ นางลาคืนกระบือให้จำเลยไป กระบือของโจทก์เพิ่งหายภายหลังเมื่อนางลาจูงกระบือพิพาทไปให้บุตรดู ด้วยเหตุผลดังกล่าวมาฟังได้ว่ากระบือพิพาทเป็นของจำเลย เหตุผลที่จำเลยใช้ชื่อกระบือตามสีธรรมชาติหรือไม่นั้นไม่สำคัญเท่าเหตุผลสองประการดังกล่าวมา พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ให้ยกฎีกาโจทก์ ให้โจทก์เสียค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความชั้นฎีกาเป็นเงิน 75 บาท แทนจำเลย

Share