คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 999/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เอกสารที่ผู้ทำ ทำยกทรัพย์ให้บุตร ได้ทำตามแบบพินัยกรรมความตอนต้นก็บ่งว่าผู้ทำ ทำพินัยกรรมเป็นคำสั่งเด็ดขาดและจะยกทรัพย์ให้ต่อเมื่อตนตายแล้ว ตอนท้ายก็มีบันทึกของผู้นั่งพินัยกรรมตามแบบเดิม และเซ็นชื่อผู้นั่งพินัยกรรมถึง 6 คน ดังนี้ย่อมถือว่าเป็นพินัยกรรม
ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้แก่บุตร แล้วภายหลังสั่งให้ผู้รับฝากทรัพย์ตามพินัยกรรมให้มอบทรัพย์นั้นแก่บุตรไปในระหว่างที่ตนมีชีวิตอยู่ ก็หาเป็นเหตุลบล้างลักษณะของเอกสารนั้นให้กลับไม่เป็นพินัยกรรมได้ไม่
ผู้รับฝากทรัพย์ของเขาไว้เพื่อมอบให้แก่บุตรของผู้ฝากภายหลังได้มอบทรัพย์นั้นแก่บุตรของผู้ฝาก ผู้ฝากรู้แล้วมิได้คัดค้านย่อมถือได้ว่าผู้ฝากยินยอมให้ผู้รับฝากมอบทรัพย์ให้แก่บุตร ผู้รับฝากย่อมพ้นหน้าที่รับผิดชอบในทรัพย์ส่วนนี้ และผู้ฝากก็สิ้นสิทธิที่จะเรียกทรัพย์ส่วนนี้คืนจากผู้รับฝาก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อ พ.ศ. 2477 โจทก์ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ของโจทก์ ตามบัญชีท้ายฟ้องหมาย ก. ให้แก่เด็กชายสมบูรณ์ และหมาย ข.ให้แก่เด็กหญิงสมบัติบุตรโจทก์ ทำพินัยกรรมแล้ว โจทก์ได้มอบทรัพย์ดังกล่าวให้จำเลยซึ่งเป็นพ่อตาเลี้ยงเป็นผู้เก็บรักษาไว้แทนโจทก์เพื่อมอบให้บุตรโจทก์ ทั้งสองเมื่อโจทก์ถึงแก่กรรม ต่อมาเมื่อพ.ศ. 2491-2492 โจทก์ได้ไปขอคืนทรัพย์รายนี้ จำเลยขอผัดเสมอไปไม่มีสิ้นสุด จึงขอให้ศาลบังคับจำเลยคืนแก่โจทก์

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยคืนทรัพย์ตามบัญชีท้ายฟ้องหมาย ก.ข.ให้โจทก์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกาว่า

1. เอกสารรายนี้เป็นหนังสือแบ่ง

2. จำเลยไม่ได้รับฝากทรัพย์

3. ทรัพย์รายนี้มิได้อยู่ที่จำเลย

ศาลฎีกาเห็นว่า

1. เอกสารที่โจทก์ทำยกทรัพย์ให้บุตรนั้นมีลักษณะเป็นพินัยกรรมเพราะได้ทำตามแบบพินัยกรรม ความตอนต้นก็บ่งว่า โจทก์ทำพินัยกรรมเป็นคำสั่งเด็ดขาด และจะยกทรัพย์ให้ต่อเมื่อโจทก์ตายแล้วตอนท้ายก็มีบันทึกของผู้นั่งพินัยกรรมตามแบบเดิม และเซ็นชื่อผู้นั่งพินัยกรรมถึง 6 คน แม้ตัวจำเลยเองก็เบิกความรับว่าโจทก์ทำพินัยกรรมฉบับนี้ยกทรัพย์ให้บุตรโจทก์ที่จำเลยว่าต่อมาเมื่อนายสมบูรณ์นางสมบัติแต่งงานโจทก์สั่งให้จำเลยมอบทรัพย์ให้นายสมบูรณ์นางสมบัติเสียนั้น หาเป็นเหตุจะลบล้างลักษณะของเอกสารให้กลับไม่เป็นพินัยกรรมได้ไม่

2. ตามฎีกาข้อ 2 ฟังว่าจำเลยได้รับฝากทรัพย์รายนี้จริง

3. เห็นว่าจำเลยอยู่ในฐานรับฝากทรัพย์ของโจทก์ไว้เพื่อให้แก่บุตรโจทก์ เมื่อจำเลยได้มอบทรัพย์ให้แก่บุตรโจทก์ โจทก์รู้แล้วมิได้คัดค้าน ย่อมถือได้ว่าโจทก์ยินยอมให้จำเลยมอบทรัพย์ให้แก่บุตรโจทก์ไปแล้ว จำเลยย่อมพ้นหน้าที่รับผิดชอบในทรัพย์ส่วนนี้โจทก์ก็สิ้นสิทธิที่จะเรียกทรัพย์ส่วนนี้คืนจากจำเลย ศาลฎีกาจึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า ให้จำเลยส่งทรัพย์ตามบัญชีท้ายฟ้องหมาย ก. อันดับ 3, 4, 5, 7 หมาย ข. อันดับ 5, 6 ให้โจทก์ถ้าคืนไม่ได้ให้ใช้ราคา

Share