คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 418/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่า โจทก์มีสิทธิได้รับมรดกและลงชื่อโจทก์ในโฉนดร่วมกับจำเลยนั้น เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ จะเรียกค่าธรรมเนียมอย่างคดีมีทุนทรัพย์ไม่ได้
การที่บิดาพูดรับรองในวันทำบุญ 7 วันศพภริยาว่าจะแบ่งนาพิพาทให้บุตรทุกคน แล้วบิดาได้ครอบครองนาพิพาทต่อมาร่วมกับบุตรบางคนดังนี้ ถือว่าบิดาได้ครอบครองนาพิพาทแทน
สินสมรสระหว่างบิดามารดานั้น หากมารดาตาย แต่ถ้าบิดายังมีชีวิตอยู่ บุตรคงมีส่วนเฉพาะที่เป็นมรดกของมารดาเท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นางจอเป็นเจ้าของนามีโฉนด 1 แปลง โจทก์จำเลยนอกจากนายถมยาเป็นบุตรนางจอ นายถมยาเป็นหลาน นางจอตาย นายเจริญบิดาและโจทก์จำเลยได้ครอบครองที่นานี้ร่วมกันและแทนกันตลอดมายังมิได้แบ่งมรดก จำเลยไปลอบประกาศลงชื่อในโฉนดเสียคนเดียวขอให้แสดงว่าโจทก์มีสิทธิจะรับมรดกนางจอและลงชื่อโจทก์ในโฉนดร่วมกับจำเลย จำเลยให้การว่าได้ใช้หนี้จำนองแทนนางจอ ๆ ยกที่พิพาทให้จำเลยก่อนตาย ฟ้องโจทก์เกิน 1 ปี ขาดอายุความ

ศาลชั้นต้นเห็นว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ ให้ยกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์ฟังว่า นายเจริญบิดาได้รับรองเมื่อทำบุญ 7 วัน ศพนางจอว่า จะแบ่งที่พิพาทแก่บุตร ที่นายเจริญปกครองที่พิพาทถือว่าปกครองแทนผู้รับมรดก คดีไม่ขาดอายุความ พิพากษากลับให้ลงชื่อโจทก์ในโฉนดร่วมกับจำเลย

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเชื่อข้อเท็จจริงฟ้องตามศาลอุทธรณ์ และเห็นว่านายเจริญครอบครองที่วิวาทแทนผู้รับมรดก ฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความ

ที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์มิได้ฟ้องขอแบ่งอย่างคดีมีทุนทรัพย์และมิได้เสียค่าธรรมเนียมที่ศาลอุทธรณ์ให้ลงชื่อโจทก์ทุกคนเป็นการตัดสิทธิของบุคคลอื่น และเกินคำขอนั้น เห็นว่าศาลชี้ขาดได้ไม่เกินคำขอ และคดีนี้ไม่ใช่เป็นคดีที่โจทก์ฟ้องขอแบ่งปันทรัพย์มรดกจึงเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ จะเรียกค่าธรรมเนียมอย่างคดีมีทุนทรัพย์ไม่ได้ปรากฏว่า ทรัพย์รายนี้เป็นสินสมรสระหว่างนางจอกับนายเจริญสามี สิทธิของโจทก์จำเลยจึงได้รับเฉพาะส่วนที่เป็นมรดกของมารดาเท่านั้น ที่จำเลยขอให้หักใช้หนี้มิได้ฟ้องแย้ง จึงไม่มีทางบังคับ

พิพากษายืน แต่ให้มีความชัดว่า ให้ลงชื่อโจทก์ร่วมกับจำเลยในโฉนดรายพิพาทในฐานะผู้รับมรดกนางจอ

Share