คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 43/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ถูกแทงที่สีข้างเป็นแผลฉกรรจ์ลึกเข้าช่องท้องถูกตับและกระบังลมต้องทำการผ่าตัดและต้องนอนอยู่กับที่ในโรงพยาบาล 22 วัน และทุเลาการใช้กำลังอีกราว 10 วัน ไปรับราชการตามปกติไม่ได้ ถือว่า ไม่สามารถจะประกอบการหาเลี้ยงชีพได้โดยปกติเกินกว่า 20 วันเป็นบาดแผลสาหัสตาม มาตรา 256(8) ผู้ถูกทำร้ายจะได้รับเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยงในระหว่างนั้นหรือไม่ ไม่สำคัญ

ย่อยาว

โจทก์หาว่า จำเลยเสพสุรามึนเมาครองสติไม่ได้ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานผู้ทำการตามหน้าที่ และแทงพลทหาร ส. เป็นบาดแผลสาหัสโดยได้รับทุกขเวทนา และไม่สามารถประกอบหาเลี้ยงชีพโดยปกติเกินกว่า 20 วัน ขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษจำเลยให้การปฏิเสธรับข้อต้องโทษ ได้ความจากคำเบิกความของแพทย์ประกอบใบชัณสูตรบาดแผลว่า พลทหาร ส. มีบาดแผลถูกของแหลม 1 แห่งที่สีข้างยาว 1 ซ.ม.กว้าง 3 ซ.ม. ลึกเข้าช่องท้องถูกตับและกระบังลม ได้ทำการผ่าตัดที่หน้าท้อง ต้องนอนอยู่กับเตียงในโรงพยาบาล 22 วัน และทุเลาการใช้กำลังอีกราว 20 วัน

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยผิดมาตรา 120 ซึ่งเป็นบทหนักโดยฟังว่า บาดแผลพลทหาร ส. ไม่ถึงสาหัส จำคุก 1 ปี เพิ่มโทษตามมาตรา 72 คงจำคุก 1 ปี 4 เดือน

ศาลอาญากลาง เห็นว่า บาดแผลพลทหาร ส. ถึงสาหัส ตามมาตรา 256(8) จำเลยมีผิดตามมาตรา 257 ให้ จำคุก 3 ปี เพิ่มโทษตามมาตรา 72 คงจำคุก 4 ปี

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า การที่พลทหาร ส. ถูกทำร้ายมีบาดแผลถึงกับต้องทำการผ่าตัด และต้องนอนตลอดจนต้องทุเลาการใช้กำลังมีกำหนดเวลาดังกล่าว ไปรับราชการตามปกติไม่ได้ ย่อมถือว่าไม่สามารถจะประกอบการหาเลี้ยงชีพได้โดยปกติ เพราะความทุพพลภาพนั้นเกินกว่า 20 วัน เป็นบาดแผลสาหัสตามกฎหมายที่ไม่สามารถไปรับราชการเช่นนั้นจะได้รับเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยงหรือไม่ไม่สำคัญ

พิพากษายืน

Share