คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 915/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปลัดอำเภอกับผู้ช่วยนายด่านศุลกากร และศุลการักษ์ด่านศุลกากรสมคบกันจดข้อความเท็จลงในสมุดบัญชี และทำรายงานเท็จรับรองการขนสินค้าขึ้นท่า ซึ่งความจริงสินค้ารายนั้นได้ถูกขนย้ายไปสิงคโปร์ โดยมิได้ผ่านการตรวจรับของพวกจำเลยเลย ดังนี้ ย่อมเป็นการเสียหายแก่ทางราชการในหน้าที่ของจำเลยโดยตรง จำเลยจึงต้องมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 230 (อ้างฎีกาที่ 1450/2494)

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 125, 126, 133, 136, 138 และ 230

จำเลยทั้ง 5 ปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่าจำเลยที่ 1-2-3-4 ผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 230 จำคุกคนละ 5 ปี จำเลยที่ 5ไม่มีความผิดให้ปล่อยตัว

ศาลอุทธรณ์คงพิพากษายืนในคดีนี้ คงพิพากษาแก้เฉพาะคดีนายเพียวจำเลยซึ่งพิจารณารวมกัน

จำเลยที่ 1, 2, 3, 4 ฎีกา

ศาลฎีกาตรวจสำนวนแล้ว ศาลทั้งสองฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่าจำเลยทั้ง 4 นี้เป็นเจ้าพนักงานคือจำเลยที่ 1 ที่ 2 เป็นปลัดอำเภอจำเลยที่ 3 เป็นผู้ช่วยนายด่านศุลกากร จำเลยที่ 4 เป็นศุลการักษ์ด่าน จำเลยทั้งสี่คนนี้ได้สมคบกันใช้อำนาจในหน้าที่จดข้อความเท็จในสมุดบัญชีและทำรายงานเท็จความจริงข้าวเหนียวรายนี้ได้ถูกขนย้ายไปยังสิงคโปร์มิได้ผ่านการตรวจรับของจำเลย จำเลยได้สมคบกันจดข้อความเท็จว่า ได้ผ่านการตรวจรับของจำเลย และทำรายงานเท็จศาลฎีกาได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่จำเลยสมคบกันจดข้อความเท็จลงในสมุดบัญชี และทำรายงานเท็จตามข้อเท็จจริงดังกล่าวนั้น ข้อความที่จำเลยจดลงในสมุดบัญชีและรายงานเท็จนั้น เป็นหลักฐานแสดงว่าจำเลยได้รับรองข้อความตามที่จำเลยได้ทำบันทึกและรายงานเท็จอันเป็นการเสียหายแก่ทางราชการในหน้าที่ของจำเลยโดยตรงจึงเป็นการผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 230 ฯลฯ

จึงพิพากษายืน

Share