คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1115/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ให้เช่าทรัพย์สินไปแล้วผู้เช่าเอาทรัพย์นั้นไปจำนำไว้กับผู้อื่นเจ้าของผู้ให้เช่าย่อมมีสิทธิติดตามเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของตนได้ ผู้รับจำนำไม่มีสิทธิจะยึดของที่จำนำไว้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ได้ให้ตู้เย็นจำเลยที่ 1 เช่าไป 1 ตู้จำเลยที่ 1 ค้างค่าเช่า โจทก์จะขนตู้เย็นกลับคืน จำเลยที่ 2-3 ได้บังอาจขนย้ายตู้เย็นของโจทก์จากร้านจำเลยไปเก็บไว้ที่บ้านจำเลยที่ 2-3 และอ้างว่าจำเลยที่ 1 กู้เงินไปเอาตู้เย็นเป็นประกัน ไม่ยอมคืนตู้เย็นให้โจทก์ จึงขอให้ศาลบังคับให้จำเลยทั้งสามคืนหรือใช้ราคาตู้เย็นกับค่าเช่าที่ค้างชำระค่าเช่าต่อไป

จำเลยที่ 1 ส่งหมายไม่ได้ ไม่ได้ยื่นคำให้การ ส่วนจำเลยที่ 2-3ต่อสู้ว่า จำเลยที่ 1 จำนำตู้เย็นไว้กับจำเลยที่ 3 หากโจทก์จะเป็นผู้ให้เช่าตู้เย็น ก็เป็นการทำให้บุคคลภายนอกรวมทั้งจำเลยด้วยหลงในพฤติการณ์ที่โจทก์ยอมให้จำเลยที่ 1 ครอบครองตู้เย็น จำเลยไม่ต้องรับผิดเรื่องค่าเช่า ต่อมา นายบรรลือ ภุชงคกุล ได้ร้องขอเข้าเป็นจำเลยร่วม โดยกล่าวว่าจำเลยที่ 1 ได้จำนำตู้เย็นไว้กับผู้ร้องด้วย และให้การแก้คดีทำนองเดียวกับจำเลยที่ 2-3

าลชั้นต้นพิพากษาให้คืนตู้เย็นแก่โจทก์ ให้จำเลยที่ 1 ชำระค่าเช่าที่ค้าง

จำเลยที่ 2, 3 และผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 2, 3 และผู้ร้องฎีกา ขอให้ยกฟ้อง และว่าหากโจทก์จะได้ตู้เย็นคืนก็ให้ไถ่จากผู้ร้องและจำเลยที่ 2-3

ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ชัดตามศาลล่างทั้งสองว่าตู้เย็นรายนี้เป็นของโจทก์ให้จำเลยที่ 1 เช่า แล้วจำเลยที่ 1 ได้เอาไปจำนำไว้กับผู้ร้องและจำเลยที่ 2, 3 สัญญาที่จำเลยที่ 1 ได้ทำกับผู้ร้องและจำเลยที่ 2, 3 จึงไม่ผูกมัดโจทก์ โจทก์มีสิทธิติดตามเอาทรัพย์สินของตนคืนได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1336 พิพากษายืน

Share