แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ใบมอบฉันทะซึ่งทำขึ้นในขณะผู้มอบป่วยมีสติไม่ปรกติพูดจาไม่รู้เรื่อง ผู้อื่นต้องจับมือแตะลายมือและจับมือให้เซ็นชื่อนั้น ย่อมไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้รับมรดกตามพินัยกรรมของนางน่วมสามีโจทก์ ในที่ดินแปลงหนึ่งเป็นเนื้อที่ ๘ ไร่ ที่แปลงนี้นายน่วมมีชื่อเป็นเจ้าของร่วมกับจำเลย และนายหอมจันทร์ นายจอนบุตรนายน่วม เมื่อนายน่วมตายแล้วโจทก์จะไปขอรับมรดก จึงทราบว่าเจ้าพนักงานได้จัดการแก้ทะเบียนให้จำเลยแล้ว โดยนายน่วมยกที่ดินฉะเพาะส่วนของนายน่วมให้จำเลยและมอบฉันทะให้จำเลยจัดการแทน ทั้งนี้จำเลยทำใบมอบฉันทะขึ้นโดยมิใช่เจตนาอันแท้จริงของนายน่วม เพราะนายน่วมป่วยหนักไม่มีสติสัมปชัญญะ จึงขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการโอนระหว่างนายน่วมและ นางบุญรอดเสีย และโอนส่วนของนายน่วม ๘ ไร่ให้แก่โจทก์
จำเลยให้การต่อสู้ว่า ขณะทำใบมอบฉันทะนั้นนายน่วมมีสติดีเช่นบุคคลธรรมดา โจทก์ไม่มีสิทธิจะขอให้เพิกถอน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนการโอน และให้โอนส่วนของนายน่วม ๘ ไร่ให้โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า นายน่วมป่วยเป็นอัมพาต หรือเหน็บชา เมื่อขณะทำใบมอบฉันทะนั้นกำลับป่วยมีสติไม่ปรกติ พูดจาไม่รู้เรื่อง ต้องจับมือและลายมือและจับมือให้เซ็นชื่อใบมอบฉันทะ ตามเหตุผลในคดีไม่มีเหตุอันใดที่นายน่วมจะกลับใจไม่ยกที่พิพาทให้โจทก์ ที่ศาลล่างพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีชอบแล้ว จึงพิพากษายืน