คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 593/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลอุทธรณ์หาจำต้องผูกมัดตามคำสั่งรับอุทธรณ์ของศาลชั้นต้นไม่
การวางทรัพย์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 331,333 นั้นเป็นเรื่องการปลดเปลื้องให้พ้นความรับผิดในการชำระหนี้ส่วนเรื่องลูกหนี้ได้ผิดนัดชำระหนี้แล้วหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ย่อยาว

คดีเหล่านี้คงขึ้นมาสู่ศาลฎีกาเพียง 6 คดี โจทก์ฟ้องขับไล่ศาลชั้นต้นรวมพิจารณา มีประเด็นว่า (1) สถานที่เช่าเป็นเคหะหรือไม่ กับ (2) จำเลยผิดนัดชำระค่าเช่าหรือไม่ ศาลชั้นต้นเห็นว่าห้องเช่าทุกรายเป็นเคหะ ตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ และจำเลยไม่ผิดนัด พิพากษาให้จำเลยชำระค่าเช่า ส่วนคำขออื่นให้ยกเสีย

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย

ศาลฎีกาเห็นว่าปัญหาข้อกฎหมายชั้นศาลฎีกาคงมีว่า

(1) เมื่อศาลชั้นต้นสั่งฟ้องอุทธรณ์โจทก์ว่าเป็นข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงปะปนกัน ศาลอุทธรณ์จะต้องถือตามคำสั่งนั้นหรือไม่

(2) ถ้าจำเลยไม่ดำเนินการตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 331 และ 333 ว่าด้วยวิธีวางทรัพย์แล้ว จำเลยต้องตกอยู่ในฐานะผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าหรือไม่

ศาลฎีกาเห็นว่าในปัญหาข้อ (1) ศาลอุทธรณ์หาจำต้องผูกมัดโดยคำสั่งรับอุทธรณ์ของศาลชั้นต้นไม่ ส่วนข้อ (2) นั้นการวางทรัพย์เป็นเรื่องการปลดเปลื้องให้พ้นความรับผิดในการชำระหนี้ ส่วนเรื่องที่ว่าลูกหนี้ได้ผิดนัดชำระหนี้แล้วหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

จึงพิพากษายืน

Share