แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การนำเงินมาวางศาล ซึ่งจะทำให้จำเลยไม่ต้องรับผิดเสียดอกเบี้ยในจำนวนเงินที่วางไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 135 นั้นย่อมต้องหมายความว่านำมาวางก่อนที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจะนำมาวางในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา ไม่ได้
การวางเงินต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี เพื่อให้หยุดการบังคับคดีไว้ตามนัยแห่งมาตรา 295 หาใช่เป็นนำเงินมาวางศาลตามมาตรา 135 ไม่
ย่อยาว
ได้ความว่า ศาลแพ่งและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยใช้เงิน 51,500 บาท ให้แก่โจทก์ และใช้ดอกเบี้ยในต้นเงิน 50,000 บาทในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าชำระเสร็จ จำเลยฎีกาศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดี โจทก์ได้ขอหมายบังคับคดีเพื่อจัดการยึดทรัพย์จำเลย จำเลยได้นำเงินมาวางต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี ต่อมาศาลฎีกาพิพากษายืน โจทก์รับเงินที่จำเลยวางไว้นั้นไปแล้ว บัดนี้โจทก์มาขอให้ศาลบังคับให้จำเลยใช้ดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่จำเลยวางเงินจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2495 ศาลแพ่งสั่งว่าจำเลยนำเงินมาวางศาลแล้วจึงไม่ต้องเสียดอกเบี้ยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 135 ไม่อนุญาตตามที่โจทก์ขอ
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยใช้ดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ตามขอ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การนำเงินมาวางศาล ซึ่งจะทำให้จำเลยไม่ต้องรับผิดเสียดอกเบี้ยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 135 นั้นย่อมหมายความว่า นำมาวางก่อนที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเพราะการที่จะบังคับจำเลยรับผิดในเรื่องดอกเบี้ยเพียงไร หรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่ต้องกล่าวไว้ในคำพิพากษา ไม่ใช่เป็นเรื่องจะกระทำในชั้นอุทธรณ์ฎีกา การที่จำเลยวางเงินในเรื่องนี้ เป็นการวางเงินต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี เพื่อให้หยุดการบังคับคดีไว้ตามนัย มาตรา 295
พิพากษายืน