แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยได้ทำสัญญาจะขายที่ดินซึ่งจำเลยเป็นเจ้าของร่วมกับผู้อื่นเฉพาะส่วนของจำเลย จำเลยได้รับมัดจำไว้แล้วแต่จำเลยขอแบ่งแยกและโอนโฉนดไม่สำเร็จ เพราะเจ้าพนักงานที่ดินยังไม่ทำให้นั้นแม้จะเป็นเหตุที่จำเลยอาจไม่ต้องรับผิดชอบแต่ก็ไม่มีผลถึงกับจะทำให้จำเลยถือเป็นเหตุปฏิเสธไม่ยอมปฏิบัติตามสัญญาเสียทีเดียวจำเลยยังคงต้องผูกพันที่จะต้องชำระหนี้ คือให้ได้มีการโอนโฉนดเฉพาะส่วนของจำเลยให้แก่โจทก์ตามสัญญาเมื่อบัดนี้จำเลยปฏิเสธสัญญาโจทก์ย่อมมีสิทธิบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ทำสัญญาจะขายที่ดินส่วนของจำเลยเนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ให้แก่โจทก์ จำเลยได้รับมัดจำไว้แล้วส่วนที่เหลือจะชำระกันวันรับโอนโฉนด เนื่องจากที่ดินแปลงนี้มีบุคคลเป็นเจ้าของร่วม จำเลยจะต้องยื่นคำร้องขอให้เจ้าพนักงานที่ดินแบ่งแยกเสียก่อน บัดนี้ล่วงเลยมา7 ปีแล้ว จำเลยยังไม่โอนให้โจทก์ขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การว่า จำเลยได้ดำเนินการขอรังวัดแบ่งแยกเรื่อยมาแต่มีอุปสรรคยังทำไม่ได้จำเลยไม่ได้ผิดสัญญา ตามข้อสัญญาจำเลยเลือกชำระหนี้ได้ เมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยเช่นนี้ จำเลยจึงไม่ประสงค์จะขายที่ดินให้โจทก์ ขอคืนมัดจำและปรับ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยไม่ได้ผิดสัญญาพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยขอแบ่งแยกและโอนโฉนดไม่สำเร็จเพราะเจ้าหน้าที่ยังไม่ทำให้นั้น แม้จะเป็นเหตุให้จำเลยไม่ต้องรับผิดชอบ แต่ก็ไม่มีผลถึงกับจะทำให้จำเลยถือเป็นเหตุปฏิเสธไม่ยอมปฏิบัติตามสัญญาเสียทีเดียวจำเลยยังคงต้องผูกพันที่จะต้องชำระหนี้คือให้ได้มีการโอนโฉนดเฉพาะส่วนของจำเลยให้แก่โจทก์ตามสัญญาเมื่อบัดนี้จำเลยปฏิเสธสัญญา โจทก์ย่อมมีสิทธิบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาได้
พิพากษากลับ ให้จำเลยโอนที่ดินเฉพาะส่วนของจำเลยให้แก่โจทก์และรับชำระราคาที่ยังเหลืออยู่