คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1737/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เอกสารใดมีลักษณะเป็นใบรับตามประมวลรัษฎากรแล้วจะต้องปิดอากรแสตมป์ มิฉนั้นใช้อ้างเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้
จำเลยอ้างว่าชำระเงินกู้ให้โจทก์แล้วตามเอกสารที่ส่งศาลแต่เอกสารดังกล่าวมิได้ปิดอากรแสตมป์ให้ถูกต้องตาม ก.ม. จึงรับฟังเป็นพยานไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่านายลิจำเลยกู้เงินโจทก์ไป ๒ ครั้ง ครั้งแรก ๑,๒๑๐ บาท ครั้งสอง ๓,๔๒๐ บาท นายอุดมจำเลยเป็นผู้ค้ำประกัน โจทก์ทวงถามจำเลยผัดเรื่อย จึงขอให้ศาลบังคับนายผลิ จำเลยให้ชำระต้นเงินและดอก หากไม่สามารถชำระได้ให้นายอุดมจำเลยชำระแทน
นายลิจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ
นายอุดมจำเลยให้การว่าได้ค้ำประกันหนี้ทั้งสองรายจริง ครั้งที่ ๑ ชำระแล้ว ต้นเงินเพียง ๑,๐๐๐ บาท โจทก์ยังไม่คืนสัญญา ส่วนเงินกู้ครั้งที่ ๒ ต้นเงินเพียง ๓,๐๐๐ บาท ตกลงชำระภายใน ๒ เดือน ดอกเบี้ยผิด ก.ม.โจทก์ยอมผัดผ่อนให้นายลิจำเลยชำระหนี้หลายครั้ง ในที่สุดตกลงชำระหนี้กันใหม่ จำเลยย่อมหลุดพ้นจากการค้ำประกัน จำเลยได้พยายามนำเงินไปชำระโจทก์ ๆ ไม่ยอมรับโดยจะเอาดอกเบี้ยร้อยละ ๗ ต่อเดือน และจะให้ชำระหนี้ครั้งที่ ๑ อีกด้วย
ศาลชั้นต้นฟังว่าเงินกู้รายแรกจำเลยชำระให้แก่นายฟักตัวแทนโจทก์แล้ว รายหลังโจทก์รับชำระแล้ว ๑,๒๔๒ บาท คงค้างอีก ๑,๗๕๘ บาท และวินิจฉัยว่าโจทก์เรียกดอกเบี้ยร้อยละ ๗ ต่อเดือนเป็นการผิด ก.ม.นิติกรรมในส่วนที่เสียดอกเบี้ยเป็นโมฆะ และฟังว่านายอุดมจำเลยยินยอมในการผ่อนเวลาให้นายลิจำเลยชำระหนี้จึงไม่พ้นความรับผิด พิพากษาให้นายลิจำเลยใช้ต้นเงิน ๑,๗๕๘ บาท ถ้าไม่สามารถชำระได้ให้นายอุดมจำเลยชำระแทน
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยให้นายลิจำเลยใช้ต้นเงิน ๓,๘๐๐ บาท หากนายลิจำเลยไม่สามารถชำระได้ให้นายอุดมจำเลยชำระแทน คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้คงมีปัญหาที่ศาลฎีกาจะต้องวินิจฉัยเท่าที่คู่ความอุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาเพียงว่า จำเลยจะต้องรับผิดใช้ต้นเงิน ๑,๗๕๘ บาท ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นหรือ ๓,๘๐๐ บาท ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เห็นว่าจำเลยอ้างว่า จำเลยชำระเงินกู้ครั้งแรกแล้วปรากฎตามหลักฐานการรับเงินเอกสารหมาย ล.๔ แต่เอกสารหมาย ล.๔ มีลักษณะเป็นใบรับตามประมวลรัษฎากรจะต้องปิดอากรแสตมป์ แต่มิได้จึงใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ตามประมวลรัษฎากรม.๑๑๘ และการชำระเงินกู้ตามที่จำเลยอ้างนี้มิได้เวนคืนหรือแทงเพิกถอนลงในเอกสารที่กู้เงินนั้นแล้วตาม ป.พ.พ.ม. ๖๕๓ วรรค ๒ ข้ออ้างของจำเลยใช้เป็นพยานหลักฐานไม่ได้ และฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ชำระต้นเงินให้โจทก์ตามสัญญากู้ฉบับหลังบ้างแล้วดังจำเลยอ้าง พิพากษายืน

Share