แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เอากระบือใส่คอกไว้แล้วไปนอนที่อื่น จนประมาณ 4.00 น. คืนเดียวกันนั้น จึงทราบว่ากระบือหาย ได้ออกติดตามรอยไปเป็นระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ถึงที่แห่งหนึ่งเวลา 8.00 น. พบจำเลยกำลังพากระบือไปข้างหน้าจำเลยเหลียวมาเห็น ก็ทิ้งกระบือแล้วหนีเข้าป่า ดังนี้ ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานสมคบกันลักกระบือ คดีได้ความว่านายตุดนำกระบือของนายพันผู้เสียหายใส่คอกไว้แล้วไปนอนเสียที่เรือนห่างคอกกระบือ 1 เส้น จนเวลาประมาณ 4.00 น.คืนเดียวกันนั้นจึงทราบว่ากระบือหาย นายพันกับพวกออกติดตามรอยไปเป็นระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ถึงควานช้างเมื่อเวลาประมาณ 8.00 น. เห็นผู้ร้าย 3 คนพากระบือไปข้างหน้า ผู้ร้ายเหลียวมาเห็น จึงทิ้งกระบือหนีเข้าป่าไป
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ข้อเท็จจริงดังกล่าวยังไม่เป็นผิดฐานลักทรัพย์ จึงพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ได้จึงยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นชี้ขาดว่าจำเลยเป็นคนร้ายหรือไม่ แล้วพิพากษาใหม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ชี้ขาดว่า จำเลยเป็นคนร้าย จึงพิพากษาลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โดยไม่เชื่อข้อเท็จจริง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า พยานโจทก์ฟังได้ว่า จำเลยเป็นคนร้ายรายนี้จึงพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คงยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น