คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2490

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อศาลพิพากษาคดี และสั่งให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดไว้ชั่วคราวก่อนคำพิพากษาแล้ว โจทก์จะขอทุเลาการบังคับขอให้ยึดทรัพย์จำเลยไว้ต่อไปในระหว่างอุทธรณ์ไม่ได้
คำร้องขอให้ยึดทรัพย์ชั่วคราว อาจยื่นได้ในกระบวนพิจารณาชั้นอุทธรณ์ก่อนศาลอุทธรณ์พิพากษา
เมื่อมีคำร้องขอให้ยึดทรัพย์ชั่วคราว ศาลต้องไต่สวนก่อนมีคำสั่งอนุญาตจะสั่งอนุญาตไปทีเดียวโดยไม่มีการไต่สวนย่อมไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา
ในกรณีที่จะขอให้ศาลยึดทรัพย์ชั่วคราวก่อนคำพิพากษาในเหตุฉุกเฉินนั้นโจทก์จะต้องยื่นคำร้องแสดงให้เห็นว่าคดีมีเหตุฉุกเฉินขอให้ศาลสั่งเป็นกรณีฉุกเฉินด้วย

ย่อยาว

คดีนี้ เดิมศาลแพ่งมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์จำเลยไว้ชั่วคราวก่อนคำพิพากษา ครั้นพิจารณาเสร็จสำนวนแล้ว ได้พิพากษาให้ยกฟ้องและสั่งให้ถอนการยึดทรัพย์นั้นด้วย
โจทก์ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษา และยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีคือขอให้ระงับการปล่อยทรัพย์ที่ยึดในระหว่างอุทธรณ์ศาลแพ่งสั่งยกคำร้อง โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งคงให้ยึดทรัพย์จำเลยไว้ชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์
จำเลยฎีกาขอให้ยกเลิกคำสั่งศาลอุทธรณ์และถอนการยึด
ศาลฎีกาเห็นว่า เรื่องนี้โจทก์ขอในทางทุเลาการบังคับคือขอให้ศาลยึดทรัพย์จำเลยอีกต่อไปไม่ได้ เพราะศาลไม่ได้มีการบังคับโจทก์ เหตุที่ศาลสั่งถอนการยึดก็เพราะศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 26 อนึ่งแม้จะถือว่าคำร้องของโจทก์เป็นคำร้องขอให้ยึดทรัพย์ชั่วคราวก่อนคำพิพากษาตามมาตรา 254 ก็จะต้องมีการไต่สวนตามมาตรา 255 ก่อนที่ศาลมีคำสั่งอนุญาต เรื่องนี้ศาลแพ่งสั่งยกคำร้องโดยไม่มีการไต่สวนฉะนั้นการที่ศาลอุทธรณ์สั่งอนุญาตให้ยึดโดยไม่มีการไต่สวนด้วยจึงไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา จะสงเคราะห์ว่าเป็นการสั่งในกรณีฉุกเฉินก็ไม่ได้ เพราะในคำร้องของโจทก์ หรือในการสั่งของศาลอุทธรณ์ไม่มีกล่าวถึงเหตุฉุกเฉินไว้ด้วยเลย จึงพิพากษาให้ยกคำสั่งศาลอุทธรณ์ และถอนการยึดทรัพย์จำเลย

Share