คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 926/2487

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องคดีแพ่งไม่ต้องระบุเวลาหย่างฟ้องคดีอาญา
ฟ้องระบุวันที่จำเลยเอาทรัพย์หย่าง 1 ไปแล้วระบุว่าต่อจากวันนั้นจำเลยเอาทรัพย์อีกหย่าง 1 ไป ขอไห้คืน จำเลยต่อสู้ว่าโจทขายไห้ดังนี้ สแดงว่าฟ้องของโจทไม่เคลือบคลุมและจำเลยเข้าไจข้อหาของโจท
ไนกรนีที่ฟ้องของโจทไม่เคลือบคลุม แต่สาลจะไห้ประเด็นชัดขึ้นก็สอบถามโจทได้เปนกรนีเข้ามาตรา 183 ไม่ไช่มาตรา 18 และไม่เปนเรื่องแก้ฟ้องกรนีไม่เข้ามาตรา 180

ย่อยาว

คดีสู่สาลดีกาเรื่องเรือมาคดีโจทเรียกคืน
สาลอุธรน์เห็นว่าฟ้องโจทไนข้อนี้เคลือบคลุมไห้ยก
โจทดีกา สาลดีกาวินิฉัยว่า โจทฟ้องเรียกทรัพย์ต่าง ๆ คืน (ซึ่งระบุที่จำเลยเอาทรัพย์ไป) และขอไห้คืนเรือมาดู โจทไม่ได้กล่าวว่าจำเลยเอาเรือมาดไปวัดได แต่ก็ได้บอกว่าหลังจากที่จำเลยได้มาช่วยขนทรัพย์เมื่อเกิดเพลิงไหม้แล้ว เปนแต่โจทไม่ได้กล่าววันที่เท่านั้น สาลดีกาเห็นว่าไนทางแพ่งกับทางอาญาหาเหมอนกันไม่ ไนทางแพ่งไม่มีกำหนดว่าต้องระบุไนฟ้องถึงรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาที่กะทำผิด เช่นประมวนวิธีพิจารนาความอาญามาตรา 158 (5). ฟ้องทางแพ่งเปนแต่+ข้อหาและสแดงถึงหลักแห่งข้อหานั้นแล้วจึงมีคำข้อคับ พอเท่าที่สาลและจำเลยจะเข้าไจได้ว่ากล่าวหาเรื่องไหนว่าหย่างไร เท่านั้นก็พอ คดีนี้เวลจำเลยไห้การก็ไห้การว่า เรือมาดโจทขายไห้จำเลย 5 ปีมาแล้ว สแดงว่าจำเลยเข้าไจข้อหาของโจทได้ดีไม่เปนการเคลือบคลุม หากสาลเห็นสมควนจะไห้ปนะเด็นข้อพิพาทปรากตชัดยิ่งขึ้น คือจำเลยเอาเรือมาดไปเมื่อได สาลก็มีอำนาดสอบถามโจท แต่สาลจะอ้างมาตรา 18 ย่อมไม่ตรงรูปเรื่อง มาตราที่จะไช้ก็คือมาตรา 183 โดนเปนเรื่องไห้ประเด็นชัดยิ่งขึ้น ไม่ไช่แก้ไนคำฟ้องจึงไม่ไช่กรนีตามมาตรา 180 ไนที่สุดฟังว่าโจทขายเรือมาดไห้จำเลย จึงไห้จำเลยชนะไนเรื่องนี้

Share