แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กฎหมายลักษณะผัวเมียบทที่ 10 ซึ่งให้ริบทรัพย์ในกรณีที่ภรรยามีชู้นั้นเป็นอาญาสินไหม แต่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่มีบทให้ริบทรัพย์จึงถือว่าถูกยกเลิกโดยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
หญิงมีชู้สามีฟ้องเรียกค่าทดแทนจากภรรยาและชู้ได้
หมายเหตุ ภรรยาได้ฟ้องหย่าและขอแบ่งทรัพย์ไว้ก่อนแล้วและได้ทำยอมต่อศาลยอมหย่าและแบ่งทรัพย์กัน เมื่อวันที่12 มิถุนายน 2487 โจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2487
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า นางจวนจำเลยที่ 1 เป็นภรรยาโจทก์ได้กระทำชู้กับจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นน้องชายโจทก์ ขอให้จำเลยทั้ง 2 เสียค่าทดแทนให้แก่โจทก์ 2,000 บาท หรือให้ศาลสั่งริบทรัพย์สมรสของนางจวนจำเลยที่ 1 ให้แก่โจทก์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เมื่อเมียทำชู้นอกใจผัว นอกจากผัวมีสิทธิร้องขอให้ทรัพย์ทั้งหมดตกเป็นของตนฝ่ายเดียว (ริบเสียหมด) ตามกฎหมายลักษณะผัวเมียบทที่ 10 แล้ว ยังมีสิทธิต่อเมียและชายชู้ในอันที่จะฟ้องเรียกค่าทดแทนในฐานะเป็นละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1505 ได้อีกด้วย พิพากษาแก้ให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าทดแทนให้โจทก์ 2,000 บาท เท่าที่โจทก์อุทธรณ์มา
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า คดีชายชู้แต่ก่อนเป็นคดีอาญาสินไหมเมื่อใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้ว ก็บัญญัติให้เป็นคดีทางแพ่งโดยตรง สามีมีสิทธิได้รับค่าทดแทนจากภรรยาและชายชู้ตามมาตรา 1505ไม่มีบทกล่าวถึงเรื่องริบทรัพย์ โจทก์จึงมีสิทธิเพียงได้รับค่าทดแทนจากภรรยาและชายชู้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เท่านั้น ซึ่งในคดีนี้ศาลฎีกาเห็นควรกำหนดค่าทดแทนให้เพียง 800 บาท จึงพิพากษาแก้ ให้จำเลยใช้ค่าทดแทน 800 บาทแก่โจทก์